แนะวิธีการเป็นคุณแม่สุดเจ๋ง Cool Mom!

คิดว่าความฝันสูงสุดของผู้หญิงทุกคน นอกจากจะมีสุขภาพที่ดี มีสามีที่น่ารักแล้ว ก็คงเป็นการมีลูกที่เลี้ยงง่ายและเติบโตมาอย่างมีคุณภาพและความสุข หลายคนคงกังวลนะคะว่า ถ้าถึงตอนที่เราเองมีลูกแล้ว เราจะเลี้ยงดู และให้เขาได้ดีเท่าที่คุณแม่เราเลี้ยงมาไหม คาดเดาไม่ได้จริงๆ ค่ะ #เก่งขึ้นCB

ยิ่งช่วงนี้ ดารานักแสดงของเมืองไทยก็ได้กลายมาเป็นคุณแม่อย่างคับคั่ง เช่น กุ๊บกิ๊บคุณแม่น้องเป่าเปา หรือ คุณเบนซ์พรชิตาคุณแม่น้องปริม ปัจจุบันต้องยอมรับเลยว่า โลกเราก้าวไปไกลด้วยเทคโนโลยีและสิ่งใหม่ๆ ที่ถูกประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมา สิ่งเหล่านี้ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่เรา แต่ในทางกลับกัน ก็สามารถเพิ่มช่องว่างให้คู่แม่ลูกได้เช่นกัน การเป็นได้ทั้งแม่และเพื่อน ในเวลาเดียวกันคงเป็นอะไรที่ เจ๋งมากๆ เลยนะคะ วันนี้ค่ะ Sukiez มีคำแนะนำดีๆ กับ แนะวิธีการเป็นคุณแม่สุดเจ๋ง มาฝากให้คุณแม่มือใหม่ได้ลองนำไปประยุกต์ใช้กันค่ะ

 

รับฟังเสียงของลูก

สิ่งที่สำคัญที่สุดในการจะเป็นคุณแม่สุดเจ๋งคือ การรับฟังลูกของคุณค่ะ เมื่อไหร่ก็ตาม ที่ลูกน้อยของคุณ เดินมาหาคุณพร้อมกับปัญหา นั่นหมายความว่า เขามีความมั่นใจพร้อมที่จะได้รับคำแนะนำสั่งสอน และปลอบโยนดีๆ จากคุณค่ะ ในความเป็นแม่ มันสำคัญมากนะคะ ที่ต้องให้ลูกรู้อยู่เสมอว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไร จะดีหรือร้าย เขายังมีคุณที่พร้อมจะอยู่ข้างๆ รับฟัง และช่วยเหลือ หรือถึงจะไม่มีปัญหาอะไร แม่ก็พร้อมที่จะพูดคุยรับฟังทุกความเห็นในทุกเรื่องราวที่เขาพบเจอ อย่าปฏิเสธเสียงลูกด้วยการดุด่า หรือเพิกเฉยเลยค่ะ ถ้าทั้งโลกนี้ เขาไม่เหลือใคร คนสุดท้ายที่ต้องคอยอุ้มเขาไว้ ต้องเป็นคุณ

ให้ความสนใจลูกน้อย

ความสนใจในที่นี้ หมายถึงความใส่ใจ ไม่ใช่การ Spoil นะคะ คนเป็นแม่ เป็นไปไม่ได้ใช่ไหมคะ ที่จะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับลูกตัวเองเลย แต่สิ่งที่คุณรู้นั้น มันคลอบคลุม ทั่วถึงไหม การสังเกตและสนใจว่า ลูกของคุณชอบหรือทำอะไรเป็นพิเศษ การชอบและสนใจในสิ่งที่ลูกชอบด้วยนั้นจะเพิ่มความสัมพันธ์ที่แนบแน่นและพัฒนาการของลูกได้เป็นอย่างดี เขาจะรู้สึกว่า สิ่งที่เขาสนใจ เป็นสิ่งที่ดี และไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวค่ะ นอกจากนี้ การสนใจสิ่งเดียวกับลูก ช่วยเพิ่มหัวข้อในการคุยกันของแม่ลูกด้วยนะคะ

กำหนดกฎเกณฑ์

ลูกๆ จะเคารพพ่อแม่ที่กำหนดขอบเขตที่ชัดเจนค่ะ มันเป็นเรื่องที่ดีมากนะคะ ที่จะเป็นเพื่อนกับลูกคุณ แต่คุณต้องให้ลูกเข้าใจในบทบาทของแม่ก่อนนะคะ สิ่งไหนที่ลูกทำแล้วคุณรู้สึกไม่โอเค ก็บอกเขาไปค่ะว่า อย่าทำอีก หรือสิ่งไหนที่ดูซุ่มเสี่ยง ก็สอนเขาว่า อย่าทำ แต่ละอย่าง ต้องมีเหตุมีผล มีตัวอย่างที่สามารถพิสูจน์ได้จริงนะคะ ให้เขาเกรงกับผลของความจริง ดีกว่ากลัวในสิ่งที่คุณสร้างมันขึ้นมาแล้วโตขึ้นก็พบว่า มันเป็นเรื่องโกหก บางครั้งการเปลี่ยนคำพูด จาก ห้ามหรืออย่า ให้กลายมาเป็น “แม่คิดว่าทำอย่างอื่นน่าจะดีกว่านะ” จะทำให้ลูกไม่เกิดความรู้สึกที่ต่อต้านค่ะ สิ่งเหล่านี้เป็นอีกทางที่จะแสดงให้เห็นถึงความรักและเป็นห่วงในตัวลูก แต่ก็ช่วยเห็นด้วยในสิ่งที่พวกเขาทำถูกด้วยนะคะ เขาจะได้ไม่รู้สึกว่า เราไม่สนใจความรู้สึกเขาเลย

จัดวันของ “เรา”

ใช่ค่ะ นอกเหนือจากวันเกิดหรือวันสำคัญในเทศกาลต่างๆ แล้ว แต่ละเดือนลองเลือกมาวันหนึ่งค่ะ กำหนดให้วันนั้นของทุกเดือน เป็นวันที่คุณและเขาใช้เวลาร่วมกัน ไม่ว่าจะไปทานข้าว ทำกับข้าว ช็อปปิ้ง ดูหนัง ออกกำลังกาย อะไรก็ได้ที่คุณและเขาชอบ วิธีนี้สามารถทำได้ตั้งแต่ลูกยังเป็นเด็กน้อย เป็นการปลูกฝังทางอ้อมว่า ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เราจะมีเวลาให้เขาเสมอ

เคารพในเรื่องส่วนตัวของเขา

การมีความลับ เป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของการเติบโตและเรียนรู้ในความเชื่อใจ มันไม่แปลกนะคะ ที่ลูกคุณจะมีความลับกับคุณ แม้ว่าคุณจะรู้สึกว่า ความลับนั้นมันจะเป็นเรื่องที่อันตรายต่อลูกของคุณไหม เคารพในความส่วนตัวของเขานะคะ ที่เขามีความลับ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ไว้ใจเรา แต่อาจจะเป็นเรื่องที่เขารู้สึกว่าอยากจะจัดการเอง และไม่อยากรบกวนคุณก็ได้ค่ะ

พบปะทำความรู้จักกับเพื่อนเขา

การรู้จักกับเพื่อนของลูกๆ คุณไว้เป็นวิธีที่ต่อทั้งคุณและลูกรัก เพราะมันจะทำให้ตัวคุณเองเลิกจินตนาการไปต่างๆ นาๆ ว่าเพื่อนที่ลูกคบอยู่นั้น หน้าตาเป็นอย่างไร นิสัยประมาณไหน หรือแม้แต่พักตรงไหน และลูกคุณเองก็จะสบายใจที่จะพาเพื่อนมาเที่ยวที่บ้านหรือออกไปเที่ยวกับเพื่อนค่ะ การทำความรู้จักหรือทักทายเพื่อนๆ ของลูกนั้น เป็นเรื่องใหญ่มากๆ ในความคิดของลูกค่ะ ดังนั้น คนไหนไม่เข้าตาเข้าใจเรา ก็อย่าโพล่งออกไปนะคะเก็บไว้ในใจแล้วค่อยๆ พูดดีกว่าค่ะ

ยอมรับ “ความเป็นไป” ของพวกเขา

เด็กๆ แต่ละคนเติบโตและมีความเป็นไปในทิศทางที่ต่างกันไปค่ะ ในแต่ละวัยที่เขาเจริญเติบโต ก็จะมีพัฒนาการที่โดดเด่น และแตกต่าง บางครั้ง คุณอาจจะรู้สึกขัดใจว่า ทำไมโตมาแล้วเป็นแบบนี้ เช่น ตอนเด็กๆ นั้น ทานได้หมด โตมา เลือกทาน นั่นก็ไม่ทาน นี่ก็ไม่ชอบ หรือตอนเด็กๆ ชอบวาดรูป โตมาไม่แตะชุดเครื่องเขียนที่เราซื้อให้เลย อย่าถือโทษโกรธเขาค่ะ เข้าใจและยอมรับ ในทุกช่วงวัยที่เขาเติบโต เชื่อมั่นในตัวเขา คอยดูแล ระวัง ให้คำแนะนำ และสนับสนุนอยู่เสมอค่ะ ชีวิตเขา เราให้กำเนิด แต่สุดท้าย มันก็เป็นของเขาค่ะ

อย่างที่บอกค่ะ การเป็นแม่คน มันไม่ยาก แต่การเป็นแม่ที่ดี ก็ดูจะเป็นอะไรที่คาดเดาไม่ได้ ลดความคาดหวังของตัวเอง ลงมาเป็นแม่ที่เจ๋ง แม่ที่ลูกสบายใจเมื่ออยู่ด้วย แม่ที่เป็นเหมือนทุกอย่างไม่ว่าลูกจะเติบโตจนมีชีวิตและครอบครัวเป็นของตัวเองไป เลี้ยงด้วยมือ กับเลี้ยงด้วยใจมันต่างกันค่ะ ลองนำไปปรับใช้กันนะคะ เหล่าบรรดาคุณแม่ทั้งหลาย 

สามารถเข้าไปดูบาทความ วิธีช่วยให้ลูกน้อยรู้ “เรารักลูกนะ” ที่นี่