ทาลิปบาล์มอย่างไร ไม่ให้ปากพัง

 

ติดลิปบาล์มมากชนิดที่ว่าเผลอเป็นทา มีใครเป็นอาการนี้ต้องรีบเข้ามาอ่าน เพราะกำลังสร้างนิสัยไม่ดีให้กับตัวเอง แถมมันยังส่งผลลัพธ์แย่ๆ ต่อริมฝีปากอีกด้วย

 

ก่อนอื่นมาเช็คตัวเองกันก่อนว่าคุณเป็นคนแบบนี้หรือไม่ ?

1.ติดลิปบาล์ม ต้องทาตลอดวัน

2.พกติดตัวตลอดเวลา แถมมีลิปบาล์มอยู่ตามจุดต่างๆ ในบ้าน ในรถ

3.หมดเงินไปเยอะกับลิปบาล์ม

4.มีหลากหลายยี่ห้อ หลายรส หลายกลิ่น ออกใหม่เป็นต้องลอง

5.ชอบให้ปากมันๆ เยิ่มๆ ตลอดเวลา

 

ช้าก่อน ใช่ว่าการทาลิปบาล์มเป็นประจำจะดีเสมอไป เพราะการทาลิปบาล์มไปนานๆ เข้า ทำให้ร่างกายเกิดความเคยชิน จนริมฝีปากหยุดสร้างความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ ทำให้ปากแห้งแตก และเกิดวัฒจักรให้เราต้องทาลิปบาล์มตลอดเวลา ทั้งนี้ เราสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ให้ทาลิปบาล์มระหว่างวันเยอะเกินไป

 

 

 

และยังมีทริคในการเลือกลิปบาล์มดังนี้

 

หลีกเลี่ยงส่วนผสมบางอย่าง

หลีกเลี่ยงลิปบาล์มที่มีส่วนผสมของฟีนอลเมนทอลและกรดซาลิไซลิก นั่นเพราะมีผลทำให้ปากแห้งมากขึ้น ดังที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าถ้าติดการทาลิปบาล์มมากเกินไป ร่างกายหยุดสร้างความชุ่มชื้นตามธรรมชาติรอบริมฝีปาก อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและผิวชั้นนอกบางลง เมื่อริมฝีปากบาง ทำให้ผิวอ่อนแอ และทำให้ต้องใช้ลิปบาล์มมากขึ้น

 

 

หลีกเลี่ยงลิปแบบมีรส มีกลิ่น

สารเคมีที่ช่วยเพิ่มรสและเพิ่มกลิ่น อาจทำให้เกิดการระคายเคือง และแพ้ได้ ยิ่งเป็นการทำให้ทำให้ริมฝีปากยิ่งแห้งมากขึ้นนั่นเอง

 

 

 

 

ใช้ผลิตภัณฑ์จากปิโตเลียมเจล

ปิโตเลียมเจล หรือที่เราคุ้นเคยคือยี่ห้อวาสลีน คือตำนานที่มีอยู่จริง สรรพคุณนางเหลือล้น นำมาใช้ทาปากคือดีงาม ปากชุ่มชื้น ไม่แห้งแตก ทาก่อนนอน แบบหนาๆ ตื่นมาปากก็นุ่มชุ่มชื่นเลย

 

 

ใช้ลิปบาล์มกันแดดอย่างน้อย SPF 30 เป็นอย่างต่ำ

ปากก็ต้องการการดูแลเช่นเดียวกับผิว แสงแดดทำให้ริมฝีปากดำคล้ำได้ และยังทำให้เสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนังด้วย ดังนั้นอย่าลืมเลือกลิปบาล์มที่มีสรรพคุณกันแดดด้วยน้า