แนะนำหนัง He’s Just Not That Into You (2009) หนุ่มกิ๊กสาวกั๊ก สมการรักไม่ลงตัว

  Jul 10, 2019   eyeicon  3775 view   QueenA

 

 

“เขาจะชอบเรามั้ย เขารู้สึกแบบไหน ทำไมไม่โทรกลับ” ถ้าสาวๆ เคยตั้งคำถามแบบนี้กับหนุ่มที่แอบปิ๊ง แอบกิ๊กกันอยู่ อยากให้รีบหาหนังเรื่องนี้มาดูแบบด่วนๆ เพราะมันพูดแทนใจผู้ชายได้ดี แบบจุก เจ็บ แต่จริง !

 

เรื่องย่อ

เรื่องราวความรักผ่านมุมมองของคน 9 คน 4 หนุ่ม 5 สาว ที่ต่างอยู่ในสถานะความสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ

-เบ็ธ ผู้หญิงที่ฝันถึงงานแต่งงาน หลังจากคบกับแฟนหนุ่ม “นีล” มาถึง 7 ปี

-นีล ผู้ชายที่ไม่เห็นความสำคัญการแต่งงาน ขอเพียงอยู่ด้วยกันแล้วมีความสุขก็พอ

-จีจี้ สาวออฟฟิศช่างฝัน ที่คอยแต่จะวิ่งตามหนุ่มที่ปิ๊ง

-คอนเนอร์ เซลล์ขายบ้านหนุ่มที่แม้จะออกเดทกับสาวอื่นบ้าง แต่ในใจเขาก็คิดจะจริงจังกับ แอนนา เพียงคนเดียว

-แอนนา ครูสอนโยคะที่แม้คอนเนอร์จะตามจีบแค่ไหน เธอก็ยังเผลอใจให้กับ เบน ทั้งที่รู้ว่าเขามีครอบครัวแล้ว

-เบน หนุ่มใหญ่ที่แต่งงานกับ จานีน ถึง 15 ปี เขามองว่าแอนนาคือลูกค้าเป้าหมายในอนาคต แต่บางครั้งเขาอดใจไม่ได้

-จานีน คอยให้คำปรึกษาเรื่องความรักกับจีจี้ แต่ขณะเดียวกันเธอเองก็ที่ต้องการรักษาชีวิตแต่งงาน 15 ปีไว้ให้ได้

-อเล็กซ์ เพื่อนคอนเนอร์ ที่รู้จักนิสัยผู้ชาย คอยเตือนสติจีจี้เสมอ แม้ว่าเขาคิดว่าตัวเองจะคุมเกมได้แต่เขาก็ต้องคิดใหม่

-แมรี่ เซลล์ขายโฆษณาที่ฝันอยากมีผู้ชายที่เคมีตรงกัน และเจอหน้ากันจริงๆ มากกว่า

 

 

 

รีวิว

มีการดำเนินเรื่องที่แปลกดี คล้ายกับสารคดีนิดๆ มีหลายคู่รัก แต่กระจายบทดีเยี่ยม เป็นหนังรักที่ทั้งซึ้งและทั้งสุข เพราะที่หนังต้องการสื่อมันก็คือความจริงของความรัก นับเป็นเรื่องที่มีความซับซ้อนแง่ความสัมพันธ์แต่ละรูปแบบ แต่ละคนมีมุมมอง และสถานการณ์ต่างกัน แต่ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะอะไร แง่คิดที่ได้จากหนังเรื่องนี้คือล้นเหลือ

 

อันดับแรกเลยต้องขอบอกว่าการดำเนินเรื่องของหนัง แอบมีภาพคนทางบ้านมาสัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เจอ สลับกับเนื้อเรื่องปกติ ซึ่งก็แปลกใหม่ ไม่ค่อยเห็นหนังเรื่องอื่นทำ และแม้ว่าตัวละครจะเยอะจนบางทีเราจำชื่อไม่ได้ด้วยซ้ำ หนังเผยเรื่องราวคนนั้นที คนนี้ที สลับกันไป แต่บอกเลยว่า ดูได้อย่างไม่มึนงงแน่นอนค่ะ แต่ก็อาจมีช่วงน่าเบื่อบ้าง เหมือนเส้นกราฟของหนังนั้น ขึ้นลงเป็นจังหวะเดียวซ้ำๆ เรื่อยๆ ไม่หวือหวา

 

ด้านนักแสดงนั้นก้บอกเลยว่ามีแต่ตัวดัง ตัวท็อป ทั้งเบน เอฟเฟล็กซ์ เจนนิเฟอร์ อนิสตัน ดรู แมรี่มอล์ สกาเล็ต โจฮันสัน

 

หนังสะท้อนมุมมองความคิดของผู้หญิง และการแสดงออกของผู้ชายได้ดีมากๆ โดยผู้หญิงมักเป็นเพศที่ทำอะไรตรงข้ามกับความรู้สึก ยกตัวอย่างง่ายๆ เวลาโกรธหรืองอน ถ้าถูกถามก็จะตอบ่วา “ไม่เป็นไร” ไว้ก่อน ซึ่งในหนังนั้น ผู้หญิงจะตีความไปว่าผู้ชายจะทำอะไรตรงข้ามกับความรู้สึก เหมือนที่ผู้หญิงทำ

 

 

ประเด็นที่หนังต้องการจะสื่อเลย คิดว่าคงเป็นเรื่องของความลงตัว ความเป็นกลาง และความเป็นจริง

 

ความลงตัว : ตัวละครหลายๆ ตัว มีความพยายาม ทำดีกับคนที่รัก แต่บางครั้งความพยายามก็สูญเปล่า เพราะอีกฝ่ายก็ไม่เห็นพยายามอะไร สุดท้ายแล้วความรักที่ให้ กับที่ได้รับมามันก็ไม่เท่ากัน ต้องกลับมาถามตัวเองแล้วว่าเรากับเขาเข้ากันได้อย่างลงตัวรึเปล่า

ความเป็นกลาง : ผู้หญิงมักทุ่มเทกับความรักแบบล้นๆ คิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไป ส่วนผู้ชายบางทีก็แสดงออกน้อยจนแทบดูไม่ออก มันจึงเกิดความไม่สมดุลย์ของความสัมพันธ์

ความเป็นจริง : การคิดเข้าข้างตัวเองก็เหมือนการหลอกตัวเองอย่างหนึ่ง อีกทั้งการกระทำบางอย่างของอีกฝ่ายมันก็เหมือนกับการให้ความหวังไปเรื่อย สุดท้ายแล้ว เมื่อยอมรับความจริงได้ บางคนก็เลิกฝืนตัวเองกับคนที่ไม่ใช่ บางคนก็หันมารักตัวเองให้มากขึ้น และบางคนก็หันมาเลือกคนที่เขารักเราดีกว่า

 

หนังมีความสัมพันธ์หลายสถานการณ์ แต่ละคนจะได้แง่คิดและบทสรุปที่แตกต่างกัน

ทั้งแบบรักข้างเดียว แบบกำลังมองหาคนที่ใช่ แบบที่รักกันมานาน แบบที่รักคนมีเจ้าของ แบบที่เผลอใจให้มือที่ 3 ทั้งหมดทั้งมวลนี้ต่างมีบทสรุปทั้งแบบที่สมหวังและผิดหวัง  

 

***เนื้อหาด้านล่างนี้อาจมีสปอยนะคะ แต่ทั้งนี้เนื้อหาและแง่คิดที่ได้มันดีจนอยากสรุปให้เพื่อนๆ ได้อ่าน***

 

คู่เบ็ธและนีล : หลังจากทั้งคู่จบความสัมพันธ์ลง เบ็ธก็พบความจริงที่ว่า การแต่งงานไม่ได้การันตีถึงความสุขในชีวิตคู่ ส่วนนีลก็พบว่าถ้าคนรักของเขามีความสุข เขาก็ยินดีทำเพื่อเธอ

 

คู่เบนและจานีน : เหมือนว่าชีวิตหลังแต่งงาน 15 ปี จะไม่มีความหมายถ้าฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายเอาใจใส่และอยากประคับประคองความรักอยู่ฝ่ายเดียว จานีนก็ได้เรียนรู้ว่าไม่สำคัญว่าเวลาจะเสียไปเท่าไร ก็ไม่สายเกินไปถ้าจะได้เปิดโอกาสให้ตัวเองอีกครั้ง

 

 

 

 

คู่คอนเนอร์ แอนนา  : คอนเนอร์ที่คอยตามเอาใจแอนนามาตลอด แม้เขาจะเคยไปเดทกับจีจี้ แต่เขาก็เหมือนทำไปเพราะแก้เหงาที่แอนนาไม่ค่อยโทรหาเขามากกว่า ส่วนแอนนาก็ถลำลึกและคิดว่าเบนจะรักเธอ สุดท้ายหลังจากผิดหวังจากเบนเธอก็กระโดดมาซบอกคอนเนอร์ แต่ก็ทนฝืนตัวเองไม่ได้ ด้านคอนเนอร์ก็เข้าใจและยอมรับว่าแอนนาไม่ได้รักเขา

 

จีจี้ และอเล็กซ์ : จีจี้คอยโทรศัพท์จากคอนเนอร์ (เหมือนที่คอนเนอร์คอยโทรศัพท์จากแอนนา) เธอพยายามไปร้านที่คอนเนอร์ชอบไป แต่ก็เจอกับอเล็กซ์ ซึ่งได้คอยเตือนสติเธอว่า เวลาผู้ชายทำแบบนี้ แสดงว่าเขาไม่ได้ชอบเธอจริง จีจี้ก็เข้าใจผิดไปเองว่าอเล็กซ์ชอบเธอ แล้วเธอก็พบว่าการอยู่ในกรอบที่พอดี เวลาที่เหมาะสม ก็จะเจอคนที่ใช่เอง ส่วนอเล็กซ์ก็ต้องเรียนรู้การเป็นฝ่ายตามตื้อดูบ้างว่ามันรู้สึกอย่างไร

 

แมรี่และคอนเนอร์ : แมรี่ผู้ผิดหวังกับการออกเดทกับหนุ่มๆ ที่ไม่ได้จริงใจ เธอต้องการคนที่อยู่ข้างเธอจริงๆ มากกว่าแค่ส่งข้อความหรือแค่เมลล์มาหา ประจวบเหมาะกับจังหวะที่คอนเนอร์ผิดหวังกับแอนนา ทั้งสองจึงคุยกันอย่างถูกคอ

 

 

และอีกแง่คิดที่เราคนดูได้รับอย่างจังเลย ก็คือ  “ถ้าผู้ชายทำเหมือนว่าไม่สนใจคุณ นั่นแปลว่าเขาไม่สนใจคุณจริงๆ ไม่มีความหมายอื่น” แปลตรงๆ เจ็บๆ อีกอย่างก็คือ “ถ้าผู้ชายชอบเรา เขาจะพยายามเข้าหาเราเอง”

 

ก็งี้แหละน้า ความรักที่ยิ่งวิ่งไล่ มันก็ยิ่งวิ่งหนี ถ้าเรายอมรับความจริง ทำอะไรแบบกลางๆ ก็จะได้เจอคนที่ลงตัวกับเราเองแหละ ควีนเอเชื่อแบบนั้นนะ

สรุปคะแนน 8/10  แม้ไม่ใช่หนังรักหวานซึ้ง แถมมีช่วงอืดๆ บ้าง แต่อัดแน่นด้วยแง่คิดและมุมมองความรักที่ดี ที่ทำให้เราเข้าใจเรื่องความสัมพันธ์มากขึ้น อยากให้สาวๆ ได้ไปหามาดูกันค่ะ

 

 

 

QueenA

QueenA


QueenA

QueenA

ชอบดูหนัง เล่นเกม ทำขนม แต่งหน้า รวมอยู่ในร่างนี้ เอ๋อนิดๆ ซุ่มซ่ามหน่อยๆ พอให้มีรอยยิ้ม แต่ไม่ไร้สมอง
ชอบเขียนแทนพูด (แต่เดี๋ยวนี้ใช้พิมพ์เอา) พร้อมรังสรรค์เรื่องราวดีๆ มาให้สาวๆ อัพเดทตัวเองให้สวย เก่ง และมั่นใจแบบเป็นตัวเอง ไปพร้อมกัน