จะตอบอย่างไรเมื่อเราไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกับเขา

เพราะฉันเพิ่งบอกรักไป แล้วเขาก็รับฟัง… ความตื่นเต้นของ “คนที่บอกรัก” คือการลุ้นว่า คำตอบที่ได้มาจะเป็นรอยยิ้มบานเต็มหน้า  หรือน้ำตาตกใน  คนไหนสมหวังก็จับจูงมือกันเดินไป คนที่ไม่ใช่ก็ต้องทำใจเพื่อยืนให้ไหวในวันข้างหน้า.. แล้วคน
“ถูกบอกรัก” ละคะ? จะบอกตัดอ้อมๆ เดี๋ยวก็หาว่าให้ความหวัง จะบอกตรงๆ ให้ฟังก็จะมองว่าดูมั่นหน้า เลือกมากไปอีก ลำบากใจจริงๆ  #เก่งขึ้นCB

 

 

วันนี้ Sukiez เลยนำคำพูดในการปฏิเสธมาให้เพื่อนๆ ได้เลือกใช้กันค่ะ
บางครั้ง “ความจริง” ก็เป็นสิ่งที่โหดร้าย แต่สุดท้าย เราก็ต้องอยู่กับมันอยู่ดีนะคะ

“เราก็หวังว่าเราจะรู้สึกแบบเดียวกับเธอนะ”

การตอบว่า “ไม่” เมื่อความรู้สึกเรานั้นไม่ตรงกัน คือการพูดว่าเราก็หวังว่าจะรู้สึกแบบเดียวกัน การปฏิเสธแบบนี้ ไม่ได้หมายความว่า “ไม่” แบบ 100% แต่มันเป็นการบอกว่า ณ ตอนนี้ มันยังไม่ใช่ อาจจะมีคำตอบที่แน่นอนกว่านี้หลังจากนี้

 

“เราไม่เห็นว่าตัวเรา จะรู้สึกแบบนั้นเลยว่ะ”

ถ้าใครปฏิเสธคุณด้วยประโยคนี้ แสดงว่านั่นคือความรักที่เขามอบให้คุณนะคะ งง ใช่ไหมคะ? Sukiez ว่าการพูดตรงๆ ถึงแม้ว่ามันจะโหดไปหน่อย แต่มันคือความจริงใจ การซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตัวเอง รู้สึกอย่างไรก็บอกไปแบบนั้นถือว่าดีที่สุดค่ะ พอเวลาผ่านไป ทุกอย่างทำให้เราดีขึ้น ควรกลับไปเป็นเพื่อนกับเขานะคะ คนจริงใจ หายากจริงๆ ค่ะ

 

“เราให้ในสิ่งที่เธอขอไม่ได้…”

หากคุณแน่ใจแล้วว่าจะทำอย่างไรคุณก็ไม่สามารถให้ความรู้สึกตอบรับแบบเดียวกับที่เขารู้สึกได้ ความซื่อสัตย์ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด มันไม่ยุติธรรมหรอกค่ะ ที่จะโกหกเขาทั้งๆ ที่เราไม่คิดอะไร

 

“เรายังไม่รู้เลยว่าเรารู้สึกยังไง”

คำตอบนี้อาจจะทำให้คนที่บอกรักโกรธหรือรำคาญเอาได้นะคะ แต่ถ้านั่นมันคือความรู้สึกของคุณจริงๆ ว่าคุณเองยังไม่หนักแน่นหรือแน่ใจในความรู้สึกตัวเอง ก็บอกไปเถอะค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ควรทำความเข้าใจแล้วบอกคำตอบชัดเจนด้วย

 

“เรายังไม่ตกลงอะ”

บางครั้ง เราอาจจะกำลังรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของเรากับคนที่เรากำลังคุยอยู่นั้นกำลังไปได้ดี จากความรู้สึกเหล่านี้ อาจจะทำให้เขามั่นใจว่า ถึงเวลาแล้วแหละที่จะตกลงคบหาสักที แต่บังเอิญ เรายังไม่รู้สึกว่ามันใช่เวลาที่จะคบหากัน การปฏิเสธแบบนี้ อาจจะทำร้ายความรู้สึกไปบ้าง แต่ก็ดีกว่าให้อีกฝ่ายต้อง “ทนคบ” กันไป

 

“ไม่มีทางเลือกแล้ว…”

สำหรับกรณีนี้ คือคนสองคนลองคบกันแล้ว อยู่ๆ ก็รู้สึกว่าหลายๆ อย่างระหว่างเขาสองคนเริ่มไม่ตรงกัน การบอกเลิกอาจจะเป็นวิธีที่ยากที่สุดและคงเป็นวิธีสุดท้ายที่คนสองคนจะเลือก การเลิกกัน อีกฝั่งอาจจะยังรักอยู่ และต้องการจะรั้ง หากคุณแน่ใจแล้วว่า อย่างไรก็ไม่รอด… คำตอบนี้ก็ใช้ได้ค่ะ

 

“เรายังไม่อยากพูด ถ้าเรายังไม่รู้สึกจริงๆ”

คนเราตกหลุมรักด้วยความเร็วที่ต่างกัน ดังนั้นอย่ากดดันตัวเองด้วยการบอกรักเขาทั้งๆ ที่เรายังไม่ได้รู้สึกแบบนั้นจริงๆ หรือเพียงเพราะเขาบอกว่ารักเราก่อน ให้เขารู้ค่ะ ว่าเราเคารพและแคร์เขามากกว่าที่จะพูดคำบางคำออกไปทั้งๆ ที่ยังไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะนั่นอาจหมายถึงว่า คำๆ นั้นจะหมดความพิเศษไปเลยเพราะได้เคยพูดออกไปในเวลาที่ยังไม่ใช่ค่ะ

 

เลือกใช้ให้ถูกตามสถานการณ์และความรู้สึกนะคะ ไม่มีใครอยากทำร้ายจิตใจใครหรอกค่ะ แต่หากมันจำเป็นเราก็ต้องทำ
“ความรู้สึก” เป็นเรื่องที่ยุ่งยากที่สุดค่ะ เพราะมันจับต้องหรือมองด้วยตาเปล่าไม่ได้
วิธีที่ดีที่สุดคือ หลังจากพูดหรือทำอะไรลงไปแล้ว ได้รับความรู้สึกกลับมาอย่างไร  
ต้องรับให้ไหวและเดินต่อไปให้ได้ค่ะ