เพิ่มดีกรีต่อมสร้างสรรค์ หาไอเดียแจ่มเฟร่อ

งานสาย “Creative” ภาพลักษณ์ที่ดูชิค เท่ห์ เหมือนจะชิลล์ จนหลายคนเข้าใจว่างานสบาย มีอิสระ มีเวลาว่างเป็นของตัวเอง จริงๆ แล้วมันไม่ง่ายเลยจริงๆ ไม่ว่าจะนักเรียนหรือคนทำงานสายครีเอทีพ ต้องเคยมีโมเม้นท์ที่แบบคิดงานไม่ออก ความคิดสร้างสรรค์เป็นศูนย์ คือมันไม่ใช่ว่าไอเดียแจ่มเฟร่อมันจะมีเมื่อไหร่ก็ได้ บังคับให้คิดให้ออกยิ่งรู้สึกทางตันไปหมด ไอเดียเดิมๆ ลูกเล่นเก่าๆ อาการแบบนี้เกิดขึ้นได้บ่อย แต่เราเองต้องรู้จักจัดการกับมัน ทำยังไงน่ะเหรอ? ลองวิธีเหล่านี้ดูค่ะ
#เก่งขึ้นCB

• ออกไปข้างนอก Get outside
  แต่ละคนมีไลฟ์สไตล์ไม่เหมือนกัน บางคนชอบทำงานที่บ้าน ที่ออฟฟิศ หรือร้านกาแฟเจ้าโปรด เพราะรู้สึกว่าสมองลื่นไหลได้ดี อาจเกิดมาจาดความคุ้นชิน บรรยากาศที่เป็นกันเอง ทำให้ไม่เกิดความรู้สึกต้องวางตัว หรือเกร็งมากเกินไป แต่ลองคิดดูนะว่า ถ้าอยู่ที่เดิมๆ ที่ซ้ำๆ ทุกวัน เราจะเห็ยอะไรใหม่ จนเกิดเป็นไอเดียใหม่ได้อย่างไรกัน? งานที่คิดออกมามีความเป็นไปได้สูงเหลือเกินที่จะวนหลูบอยู่ที่เก่า ต่างไปจากงานเก่าเพียงเล็กน้อย การออกไปข้างนอก ไปดูสิ่งใหม่ ไปสัมผัสอะไรที่แปลกตา จะทำให้เรารู้สึกตื่นตัว สมองเปิดกว้าง ไม่จมปลักอยู่ที่เดิม โอกาสในการคิดสิ่งใหม่ออกก็มีมากขึ้นค่ะ 

 

New York City, October 2015, Manhattan

• เปิดกว้างกับความคิดเห็นคนอื่น Discussion may spark something in retaliation
  เราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกจริงไหมคะ? ต่อให้ไอเดียเลิศแค่ไหน แต่มันเลอค่าสำหรับยูคนเดียว คนอื่นเข้าไม่ถึงก็ไม่โอไหม อย่าแอนตี้การตลาด เพราะหัวใจของการขายงานอยู่ที่เราเข้าถึงความต้องการของลูกค้าได้ และอยู่ในขอบเขตที่รับได้ อย่าติ๊ส! การเป็นศิลปินคนละเรื่องกับการทำงาน  อย่าเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ลองถามความคิดเห็นคนอื่น รับฟังแล้วนำกลับมาคิดเมื่อได้รับคำติ เพิ่มตรงนั้นนิด ปรับตรงนี้หน่อย เดี๋ยวสุดท้ายจะเกิดเป็นความลงตัวเอง ถ้าเกิดอยากอาร์ทในฉบับตัวเอง 100%  คงต้องแยกมาทำงานส่วนตัว หรือ Freelance สุดโต่งไปเลย

• ศึกษาค้นคว้าตัวงาน Put the work in
  เราจะเลือกทำงานแค่งานที่เราชอบคงเป็นไปไม่ได้ ในความเป็นจริง คือ การได้รับโจทย์จากลูกค้าที่หลากหลาย แต่จะงานหลายสไตล์แค่ไหนเราก็ต้องรับได้ทุกแนว เมื่อถึงเวลาที่รู้สึกว่า เอ๊ะ! แนวนี้ไม่ถนัดเลย คิดงานบ่ออก แนะนำให้ทำความรู้จักกับสิ่งๆ นั้น เช่น การออกแบบแบนเนอร์ให้ร้านขนมเค้กแห่งหนึ่ง ลองหาข้อมูลเกี่ยวร้านนั้น ร้านขนมเค้กร้านอื่นล่ะ ไหนลองเอามาเทียบกันหน่อย ลูกค้ากลุ่มนี้เค้าชอบอะไร มักทำอะไร แล้วสิ่งที่ยังขาดอยู่คืออะไรกัน? เมื่อเรามีความรู้บ้างเกี่ยวกับงานๆ นั้น ความมั่นใจจะตามมาเอง สมัยนี้ที่โลกที่ข้อมูลข่าวสารเปิดกว้าง เทคโนโลยีทำให้เราเรียนรู้โลกในแง่มุมต่างๆ ได้ง่ายปลายเล็บ จงใช้ข้อดีจุดนี้ให้เกิดประโยชน์ที่สุด