BTS vs MRT คุณชอบแบบไหนมากกว่ากัน

ในยุคสมัยที่การคมนาคมสะดวกขึ้น เนื่องจากคนมีรถใช้มากขึ้น ทำให้การจราจรติดขัด คนเราสามารถเลือกใช้การคมนาคมสาธารณะได้ตามใจชอบ หลักๆ ของไทยเรา นอกจากรถเมล์ แท็กซี่ ปัจจุบันนี้ด้วยความทันสมัยของเทคโนโลยีทำให้เรามี BTSหรือรถไฟฟ้า และ MRTหรือรถไฟใต้ดิน มาให้เพื่อความสะดวกมากขึ้น #เก่งขึ้นCB

นอกจากความต่างของเรื่องที่ BTS วิ่งบนฟ้า ส่วน MRT วิ่งใต้ดินแล้ว Sukiez เชื่อว่า ในเรืองของความรู้สึก ของคนที่ใช้บริการย่อมต่างกันอย่างแน่นอนค่ะ วันนี้ เลยหยิบยกเอาประเด็นนี้มาเปรียบเทียบกันใน เก่งขึ้น BTS vs MRT คุณชอบแบบไหนมากกว่ากัน

ความรู้เสริม
BTS ย่อมาจาก Bangkok Mass Transit System เป็นรถไฟฟ้าที่ดำเนินการโดยบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ลงทุนและบริหารงานโดยเอกชนทั้งหมด เริ่มเปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2542 ใน 2 เส้นทาง คือ
สายสุขุมวิท (รถไฟฟ้าเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา สาย 1)
และสายสีลม (รถไฟฟ้าเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา สาย 2)
ส่วน MRT ย่อมาจาก Metropolitan Rapid Transit Chaloem Ratchamongkhon Line หมายถึง รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล เป็นโครงการรถไฟฟ้าใต้ติดสายแรกของประเทศไทย

จากการสอบถามความคิดเห็นของเพื่อนๆ ก็ได้ทราบ
ถึงความชอบพร้อมเหตุผลที่แตกต่างกันไปดังนี้ค่ะ

 BTS 

ข้อดี
โล่ง บรรยากาศปลอดโปร่ง มองเห็นวิวรอบๆ
เพราะสามารถมองเห็นด้านนอกได้ จึงสามารถสังเกตสถานีจากวิวข้างนอก สะดวก
ขึ้น ลงง่าย
แอร์ในขบวนรถไฟ เย็นมาก
ตั๋วโดยสารถือง่าย หาง่าย เป็นใบๆ
ค่าโดยสารคุ้มกับคนที่เดินทางไกล เพราะมีรูปแบบการคิดค่าบริการเป็นรอบ
หารแล้วตกรอบละไม่เกิน 30 บาท
ระยะทางภายในสถานีใกล้ เดินน้อย
เชื่อมเข้าห้างสรรพสินค้าหลายสถานี บางสถานีมี Sky walk เดินสะดวก
รูปแบบการซื้อบัตรโดยสารมีให้เลือกเยอะ ทั้งแบบเติมเงิน เติมรอบ บัตรติดลบเงินได้
มีสถานีเยอะ หลากหลาย สามารถไปได้หลายที่

ข้อเสีย
ค่าโดยสารแพง
ร้อน เพราะสถานีเป็น out door
รถไฟฟ้าติดขัดด้านจราจรบ่อย โดยเฉพาะสถานีสะพานตากสิน เนื่องจากมีช่องเดิน
รถไฟฟ้าช่องเดียว ทำให้เสียเวลา
บันไดเลื่อนมีแค่ด้านละหนึ่งตัว นอกนั้นเป็นบันไดสูงหมด ลิฟต์สถานีก็เสียบ่อย
ขับไม่นิ่ม บางครั้ง
มีการเปลี่ยนสายรถ หลายปลายทาง ทำให้ งง

 

 MRT 

ข้อดี
ในสถานีมีแอร์ เย็นสบายเวลารอรถไฟ
รวดเร็ว ตรงเวลากว่า มีการบอกเวลาที่แน่นอนว่ารถจะเทียบเข้าชานชลาในอีกกี่นาทีข้างหน้า
ค่าโดยสารเก็บตามจำนวนสถานี ถูกกว่า BTS
การซื้อเหรียญโดยสารสะดวกมาก สามารถซื้อกับพนักงานได้เลย ไม่ต้องงแลกเหรียญแล้วมาต่อคิวหยอดเอง รวมทั้งมีตู้จ่ายเหรียญโดยสารที่รับธนบัตรด้วย
ภายในสถานี เงียบ สงบ
มีสถานีปลายทางแค่สองสถานี ไม่ต้องเปลี่ยนสาย ทำให้ไม่เกิดการสับสน
มีทางเชื่อมเข้าห้างสรรพสินค้า
มีห้องน้ำให้บริการ
มีบันไดเลื่อนทุกทางออก ทุกสถานี

ข้อเสีย
เกิดเหตุการณ์รถไฟฟ้าเสียบ่อย
ดูอึดอัด มืดไปหมด เพราะมองไม่เห็นวิวข้างนอก
ช่วงเวลาคับขัน เร่งด่วน คนจะเยอะมาก เนื่องจากเป็นใต้ดินมองไม่เห็นวิวข้างนอก ทำให้รู้สึกแออัด บางครั้งมีผู้มาใช้บริการเยอะ ทำให้ไม่สามารถขึ้นรถไฟฟ้าได้ทันที ต้องรอจนกว่าจะเข้าได้ (เคยรอนานสุด สี่ขบวน)
ทางเดินระหว่างทางเข้า จนถึงตัวรถไฟค่อนข้างไกล เดินเยอะ
เพราะอยู่ใต้ดิน จึงมองไม่เห็นภาพวิวด้านนอก อีกทั้ง ภายในสถานีแต่ละสถานีเหมือนกันหมด ทำให้ไม่สามารถสังเกตจากด้านนอกได้ว่าถึงไหนแล้ว ต้องฟังจากประกาศหรือไฟเส้นทางเหนือประตู ถ้าไม่ตั้งใจฟังอาจจะเลยสถานีปลายทางของเราได้
ที่นั่งรอภายในสถานีน้อย

 

นี่คือ ข้อดีและข้อเสียของทั้งสองช่องทางจากการสอบถามความเห็นของคนที่เคยใช้บริการจริงๆ นะคะ จริงๆ ความชอบอาจจะไม่ใช่ปัจจัยหลักค่ะ สิ่งสำคัญคือปลายทางที่เราจะไปว่าการคมนาคมแบบไหนที่พาให้เราไปถึงที่หมายได้ไวและสะดวกสุดมากกว่าค่ะ ส่วนตัว Sukiez ชอบ BTS มากกว่าค่ะ เพราะเดินน้อย และเห็นวิว ดูปลอดโปร่ง และอาจจะเพราะเคยใช้บริการ MRT ในยามคับขัน เป็นช่วงวันศุกร์ตอนเย็น คนเยอะมากกกกกกกกก แออัด มองไม่เห็นวิวข้างนอกยิ่งอึดอัด รอขึ้นรถถึง 4 ขบวนถึงจะได้ขึ้นรถค่ะ

คำถาม.. แล้วเพื่อนๆ ละคะ
ชอบใช้บริการทางไหนมากกว่ากัน
และเพราะอะไรค่ะ