จะเกิดอะไรขึ้น หากที่ทำงานอันสงบและสันติของคุณ กลายเป็น สนามรบ? สนามรบที่ Sukiez พูดถึงนี่ไม่ใช่การตบ ตี หรือทำร้ายร่างกาย แต่หมายถึง การแข่งขันกันในที่ทำงาน ที่เปรียบได้เหมือนกับ สงครามเย็น
การแข่งขันในที่ทำงาน อาจจะใช้กับคำว่า ชิงดีชิงเด่น ได้เป็นอย่างดี เด่นในเรื่องของตำแหน่ง หน้าที่การงาน การเลื่อนขั้นต่างๆ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนหรอกค่ะ ที่พยายามจะโตขึ้นโดยการเหยียบคนอื่น แต่ถ้าเราเจอคนแบบนั้น หรือสถานการณ์อย่างนั้นละ เราจะทำอย่างไร? มาเก่งขึ้นกับ วิธีช่วยรับมือการแข่งขันภายในที่ทำงาน ค่ะ
ตระหนักถึงมัน
การเพิกเฉยหรือทำเป็นไม่สนใจไม่ใช่วิธีการที่จะรับมือกับการแข่งขันภายในที่ทำงานค่ะ
เพราะฉะนั้นเราควรตระหนักว่า ตอนนี้กำลังเกิดอะไรขึ้น สังเกตว่าเพื่อนร่วมงานคนไหนที่พยายามสร้างการแข่งขันกับเรา ย้ำ สังเกตนะคะ
ไม่ใช่จับผิด แต่การที่คอยระวังคนที่พยายามแข่งกับเราอย่างเดียว ก็ไม่ใช่นะคะ ต้องระวังคนที่ไม่มีทีท่าว่าจะแข่งกับเราไว้ด้วย เพราะบางทีคนกลุ่มนี้อาจใช้วิธีสกปรกมาล้มคุณก็ได้ค่ะ
ยอมรับมัน
ไม่มีสังคมการทำงานไหนไม่แข่งขันกันหรอกค่ะ ยอมรับแล้วสนุกไปกับมันดีกว่า แล้ววันๆ ในการไปทำงานของคุณจะมีสีสันขึ้นมาทันที มองเสียว่ามันคือส่วนหนึ่งของการทำงานแม้แต่คนที่เล่นด้วยวิธีสกปรกกับคุณ ไม่ต้องห่วงค่ะ คุณเจอคนพันธุ์นี้ได้ในทุกๆ ที่ เพราะฉะนั้น การหนีเป็นอะไรที่ไม่ใช่สุดเลยค่ะ
เปรียบเทียบตัวเอง
หลายคนบอก จงอย่าแข่งกับใคร นอกจากตัวคุณเอง แต่ก็นั่นแหละค่ะ เราจะทราบได้อย่างไรละคะ ว่าที่เป็นอยู่มันดีพอ หรือต้องพัฒนาต่อไหม หาดเราทราบแล้วว่า ใครกันที่พยายามแข่งกับเรา ก็นำสิ่งที่ตัวเขาเป็นมาเปรียบเทียบกับตัวเราว่า เขามีอะไรที่เราไม่มี หรือเรามีอะไรที่เขาไม่มี รู้เพื่อมาพัฒนาตัวเองนะคะ ไม่ใช่มาพารานอย หรือเพื่อเล่นวิธีสกปรกกับคนอื่นๆ
เป็นมิตรเสมอ
มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีต่อคู่แข่ง เป็นมิตร และ
ช่วยเหลือเขาในระดับหนึ่งอยู่เสมอ การทำแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าคุณสตรอเบอรี่นะคะ แต่นี่จะเป็นวิธีช่วยสานความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเขา จากศัตรู อาจจะกลับกลายมาเป็นมิตร อาจจะเริ่มจากไม่พูดถึงสิ่งที่คุณสองคนกำลังแข่งกันอยู่ และพยายามคิดว่า เราไม่ได้แข่งกัน ทั้งหมดนี้ต้องทำด้วยความจริงใจค่ะ เข้ากับคำพูดที่ว่า
เอาน้ำเย็นเข้าลูบค่ะ
หาที่ปรึกษา
การมีที่ปรึกษาหรือคนที่เป็นแบบอย่างในการทำงานถือเป็นกุญแจอีกดอกหนึ่ง
ที่จะไขให้เราก้าวไปสู่การเจริญเติบโตในหน้าที่การงาน อาจจะเป็นหัวหน้าทีมเรา
ผู้จัดการเรา หรือใครสักคนที่ตำแหน่งสูงกว่าเรา ถามเขาว่าเขามีเวลาว่างพอจะให้
คำปรึกษาหรือแนะนำไหม อาจจะนัดทานข้าว หรือดื่มกาแฟด้วยกัน ประเด็นสำคัญคือคุณต้องเก็บความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับที่ปรึกษาไว้หลังม่าน เพราะคุณเอง
ก็คงไม่อยากให้ใครรู้ว่าคุณกำลังมีความพยายามอะไรอยู่
ติดต่อกับผู้อื่น
หนึ่งสิ่งที่คนทำงานในองค์กรส่วนใหญ่พลาดคือ การไม่ออกไปไหนมาไหนกับเพื่อนร่วมงาน หรือไป แต่ก็ไปแค่กับเพื่อนที่ร่วมงานด้วยกัน แผนกเดียวกัน หรือทีมเดียวกันเท่านั้น
มันสำคัญนะคะ ในการที่จะมีมนุษยสัมพันธ์กับ
ผู้ร่วมงานในส่วนอื่นๆ
ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งหรือแผนกไหน
การทำแบบนี้ไม่เพียงแต่ทำให้การทำงานสนุกขึ้น
มันอาจจะทำให้เกิดการช่วยเหลือกันและกันในอนาคตได้ด้วยค่ะ
ทำตัวเองให้ดีที่สุด
อย่าให้คนที่พยายามแข่งกับคุณมามีผลกระทบต่อการทำงานของคุณ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดต่อไป ในระหว่างที่จับตามองคู่แข่ง ก็รู้ตัวเสมอว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ แล้วก็โฟกัสกับงานตรงนั้นด้วยค่ะ
จากบทความนี้ ไม่ได้ชี้ชวนให้ใครมาระแวงเพื่อนร่วมงาน หรือยั่วยุให้ไปแข่งกับใคร แต่โลกเรามันไม่ได้สวยขนาดนั้น การระวังตัวไว้ก็เป็นเรื่องดีค่ะ อีกทั้งการรู้ตัวว่า
มีคนพยายามแข่งกับเราก็น่าจะเป็นเรื่องดี เป็นแรงผลักดันให้เรา
พัฒนาตัวเองให้ได้ดีในหน้าที่การงานต่อไปค่ะ
สุดท้าย อยากฝากไว้ว่า คนเราสามารถไปในจุดสูงสุดได้ด้วยตัวของเราเอง “อย่าเหยียบคนอื่นเพื่อให้ตัวเองได้ดี…. เวรกรรมมีจริงค่ะ”
PHOTO CREDIT TO PINTEREST
เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ
Sukiez
Latest posts by Sukiez (see all)
- ความหมายของดอกไม้ ให้ตามโอกาส (Friday Design Station) - October 26, 2016
- SEXTING! วาบหวิวปลิวตามอักษร 18+ - October 26, 2016
- รวมบทสวดมนต์ คาถากันผี Amen! - October 23, 2016