สมการความรัก DJ. พี่อ้อย ตอนที่ 2

เรื่องราวของการแนะนำผู้หญิง #สวยเก่งสุขภาพดี ยังไม่จบเพียงเท่านี้ มาฟังคำแนะนำสำหรับผู้หญิงยุคนี้ที่ต้องรู้ ใน Past 2 ดีเจพี่อ้อยแอบมีเคล็ดลับสำหรับคนที่สนใจอยากจะเป็นดีเจด้วยนะคะ ขอรับรองว่ายังคงได้ฟังความคิดเห็นที่อัดแน่นเต็มไปด้วยความน่าสนใจเช่นเดิม 
#เก่งขึ้นCB  มาต่อกันดีกว่าค่ะ

ระหว่างเป็นผู้หญิงที่ มีหน้าที่การงาน การเงิน ฐานะทางสังคมดีพร้อม กับผู้หญิงที่มีคนที่รู้ใจ เข้าใจใส่ใจ พี่อ้อยเลือกแบบไหนคะ

พี่เป็นคนชอบรวบ เพราะพี่มีความรู้สึกว่า ต่อให้น้องเป็นผู้หญิงที่ want อยากมีคนมาเข้าอกเข้าใจ พี่ว่าผู้หญิงคนนั้นก็ยังต้องดูแลตัวเองได้ดีในระดับหนึ่ง ไม่ใช่ว่า ฉันอยากมีคนมาดูแลจังเลย แล้วก็ทำตัวเป็นคนที่ต้องมีคนดูแลอยู่ตลอดเวลา การมีการงานที่ดี การมีหน้าที่การงานที่ดี เป็นการสร้างความภาคภูมิใจอย่างหนึ่งในผู้หญิงคนหนึ่งนะ เพราะฉะนั้นถ้ามันเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง พี่ว่าคนทุกคนเลือกไม่ได้หรอก ผู้หญิงที่ตั้งใจทำทุกอย่าง ดูแลตัวเองได้ ในวันที่เรายังไม่มีใคร เราจะได้ดูแลพ่อแม่ของเราได้ด้วย เราจะได้ทดแทนบุญคุณพ่อแม่ของเราได้ด้วย ไม่ได้แปลว่าพอเจอใครสักคนที่รู้ใจฉัน ฉันงอมืองอเท้าและ เอาล่ะ! สามีเลี้ยงจ้าา บางทีมันก็ อ้าว! แล้วพ่อแม่ฉันล่ะ สามีจะไปเลี้ยงถึงพ่อแม่ฉันด้วยหรือเปล่า? เพราะบางทีการที่มีหน้าที่การงานที่ดีต่อให้มีสามี ผู้หญิงหลายคนก็อยากได้รับความภาคภูมิใจในการเป็นภรรยาที่ดี และเป็นคนทำงานที่ดีเพราะอย่างน้อยเราสร้างเงินสร้างรายได้และยังสามารถตอบกลับไปยังผู้มีพระคุณของเราได้อย่างเต็มที่ คือมันแล้วแต่เงื่อนไขแต่ละครอบครัวนะคะ อย่างที่พี่อ้อยบอกว่าแล้วแต่ความลงตัวของแต่ละคน พี่เห็นผู้หญิงในปัจจุบันนี้ ต่อให้มีสามี หรือต่อให้มีลูก ก็ยังอยากทำงานนอกบ้าน เพราะหนึ่ง สังคมของข้างนอก มันไม่ใช่แค่ให้เงินอย่างเดียว มันสร้างการเรียนรู้ มันสร้างความภูมิใจในการเป็นผู้หญิงคนหนึ่งและเขาก็แบ่ง Past ชัดเจน วันที่อยู่ข้างนอกเขาคือคนทำงาน เขาอาจจะเป็นหัวหน้า เขาอาจจะเป็น CEO ที่เก่งมากแต่พอเข้าบ้าน เขาคือภรรยาที่ยังต้องดูแลสามีเต็มที่ ยังซักผ้า ทำอาหารให้ลูกๆ ได้ และก็ภูมิใจกับทั้งสองหน้าที่นี้ เพราะฉะนั้น พี่รู้สึกว่าถ้าให้พี่เลือก พี่คงเลือกไม่ได้มั้ง มันเหมือนกับว่า ถ้าเกิดพี่ให้เลือกระหว่างกินข้าวกับกินน้ำ พี่กินอะไรคะ พี่ก็จะรู้สึกว่า พี่กินทั้งสองอย่างค่ะ แค่หลังจากกินข้าวประมาณหนึ่งแล้วค่อยดื่มน้ำให้มันอิ่มกำลังดี เพราะทั้งสองอย่างมันมีส่วนจำเป็นต่อชีวิตเราในคนละมุม มันไม่ได้สามารถเลือกเพียงอันใดอันหนึ่งได้ หรือคนที่ทำหน้าที่การงานดี ไม่ใช่คนที่ลุกขึ้นมาแล้วบอกว่า ฉันการงานดีและฉันไม่เอาสามีและกัน น้องก็เลือกไม่ได้อีกอยู่ดี ถ้าวันหนึ่งน้องทำหน้าที่การงานดีแล้วเจอผู้ชายอีกคนที่ดีจังเลยอ้ะ มันจำเป็นต้องเลือกขนาดนั้นเชียวหรือ เราก็ดูแลความรักของเราไปพร้อมๆ กับดูแลหน้าที่การงานของเราให้มันควบคู่กันได้

 

พี่อ้อยเชื่อในรักแท้ไหมคะ (ถ้าเชื่อ ทำไมรักแท้ถึงไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน)
โอ้ย ถ้ารักแท้เกิดกับทุกคน ทุกคนก็จะละเลยการดูแลกันยิ่งกว่านี้อีก พี่ไม่ค่อยสนใจรักแท้ด้วยนะ เอาจริงๆ พี่แค่ดูแลรักที่มีให้เป็นรักที่ดีที่สุด เอาแค่นี้ก่อน ถามว่ารักแท้มีจริงไหมพี่เห็นขณะทำคลับ Friday the Series พี่ก็ยังเห็นคู่ที่เป็นรักแท้มีจริง ที่สามีก็ดูแลภรรยาอย่างเต็มที่ ต้องถามตัวเองก่อนนะว่า ถ้าตัวเองมีรักแท้จริงๆ เราจะดูแลเขาแค่ของตายหรือเปล่า บางคนมีคนมาเฝ้ารักดูแลเราดีมากเลย เราจะเรียกมันว่ารักแท้ก็ได้นะ แต่เราก็ “เออ เขารักหนูอยู่แล้วล่ะ ไม่ต้องไปดูแลอะไรมากหรอก” “เขาก็รักหนูอย่างเนี่ยแหละ อู้ยย เขาไม่ไปไหนหรอก เขารักหนูอยู่แล้ว” อันเนี่ย มีรักแท้ในมือนะ แต่หนูดูแลรักแท้เป็นแค่ของตาย ถูกป้ะ หรือบางคน “เมื่อไหร่หนูจะมารักแท้สักทีอะพี่” แล้วถามว่า แล้วน้องดูแลคนที่มีอยู่เต็มที่หรือเปล่า เพราะฉะนั้นรักแท้จะมีไม่มีพี่ไม่รู้ค่ะ แค่อยู่กับใคร ดูแลเขาอย่างเต็มที่ที่สุดหรือยัง มันคือแค่นี้เอง แล้วที่พี่บอกว่าถ้ารักแท้มันเกิดขึ้นได้ง่ายๆ กับทุกคนอ้ะ เราจะยิ่งละเลย จริงๆ ก็ไม่เป็นไรหรอกหนูก็มีอยู่แล้ว รักแท้อะพี่ ไม่ต้องดูแลเขามากก็ได้ เขายังอยู่ มันจะยิ่งทำให้เราไม่มีโอกาสที่จะได้ลุกขึ้นมาดูแลความสัมพันธ์อย่างเต็มที่ เช่นเดียวกันกับพี่ที่รู้สึกว่า อันนี้ที่มันเก่งมากอันหนึ่งที่มันสอนมนุษย์ว่าไม่มีใครรู้อนาคต ไม่มีใครรู้ว่าคุณจะตายเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้นคุณมีหน้าที่ในการทำทุกวันที่ยังมีลมหายใจให้เต็มที่เท่านั้นเอง ถ้าคุณเริ่มรู้วันหมดอายุของตัวเองปั๊บ จะเริ่มใช้ชีวิตแบบ “เออ งั้นหนูนอนเฉยๆ ก็ได้เดี๋ยวก็ตายและ อีกสามอาทิตย์ ใช่ป้ะ” ใช่ไง เพราะฉะนั้นโลกถึงไม่อนุญาติให้คุณได้รู้อะไรก่อน นอกจากคนเริ่มป่วยคนเริ่มป่วยก็ยังไม่รู้วันสุดท้ายอยู่ดีนะ รู้แค่ว่า “อ๋อ หมอบอกว่าอยู่ได้อีก 6 เดือน” วนกลับมา 6 เดือน ทำอะไรดีหว่า 6 เดือนนี้ครบถ้วนหรือยังในการที่จะฝากสิ่งต่อไป ครอบครัวของเราถ้าไม่มีเราเขาจะมีลมหายใจต่อไปได้ยังไง การงานการเงินเราเอาไว้ตรงไหนดี อะไรอย่างเงี้ย เขายังมีเวลาการเตรียมตัว ถ้ามันมีวันหมดอายุติดข้างขวดสำหรับทุกคนที่เกิดมา พี่ว่าคนเราจะใช้ชีวิตเละเทะกว่านี้ “อ๋อใกล้ตายแล้วใช่ปป้ะ ดี กินเลย ฉันจะกินให้หมด” “อ๋อ อันนี้เขาบอกว่า ทำร้ายร่างกายเหรอ อะ กินได้ๆ เดี๋ยวก็ตายอยู่แล้ว” เพราะฉะนั้นความรักเช่นกัน การที่เราไม่รู้อะไรก่อนข้างหน้า มันจะทำให้เราดูแลปัจจุบันอย่างเต็มที่ที่สุด พี่มองแบบนั้น ก็เลยเป็นคนที่ไม่ค่อยแคร์อะ จะรักแท้หรือไม่แท้ช่างเถอะ เอาแค่ดูแลรักที่มีให้ดีที่สุดก่อนแล้วกัน

 

ผู้หญิงสวย ในความคิดของพี่อ้อยต้องเป็นอย่างไรคะ

ก็คงอาจจะสวยเหมือนอย่างทุกคนมั้งคะ แต่จริงๆ แล้วผู้หญิงทุกคนมีความสวยคือ ความสวยของผู้หญิงคนหนึ่งมันไม่ได้วัดที่ว่า ตาโตจังเลย แก้มสวยจังเลย คอลลาเจนหน้าตึงเปี๊ยะจังเลย แต่พี่ว่าความสวยของคนทุกคน พี่ชอบความน่ารักมั้ง คือคนบางคนอะสวยภาพนิ่ง คือ “มองอย่างเนี้ย ก็สวยดีอ้ะ แต่พอเริ่มคุยแล้วไม่น่ารักเลยว่ะ ไม่ชอบอย่างงี้” เออ มันก็มี อย่าว่าแต่สวยเลย หล่อภาพนิ่งก็เห็นเยอะแยะ แต่ทำไมคนบางคนหน้าตาก็ประมาณหนึ่ง คือหน้าตาบ้านๆ เฉยๆ อ้ะ แต่คุยกับคนนี้แล้วมีความสุขจังเลย พี่ชอบแนวนั้นมากกว่า เพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่า จะมองว่าผู้หญิงสวย เป็นยังไงพี่ก็จะมองว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่เราคุยกับเขาแล้วเรารู้สึกได้เลยว่า เราคุยกับคนนี้แล้วมีความสุข และที่สำคัญคือ ผู้หญิงสวยมักจะเป็นผู้หญิงที่มีความสุข เพราะบางคนสวยแต่ดูทุกข์ๆ เพราะว่าคาดหวังเยอะ พี่ดูสิ หน้าหนูขนาดนี้หนูยังอกหักเลยอ้ะ เขาจะต้องคาดหวัง แต่กับผู้หญิงอีกคน โอ้ย สวยขนาดนี้ยังอกหักเลยอย่างฉันสบายแระ

กลายเป็นว่าผู้หญิงแบบนี้อยู่ใกล้แล้วสนุกเพราะดูไม่มีอะไรจะเสีย สบายๆ พี่ หนูก็ไม่มี ก็แบบไม่ต้องสวยมากอ้ะ เพราะนั้นหนูถามอะไรคนก็ไม่ค่อยมองหนูเยอะหรอก อย่างเนี่ย มันก็เลยกลายเป็นดูมีสีสันชีวิตในการทำอะไรก็ได้ แฮปปี้มีความสุขแล้วคนรอบข้างก็จะมีความสุขกับการอยู่กับผู้หญิงแบบนี้ พี่ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างน้องโอปอลล์เนี่ย โอปอลล์จะเป็นน้องที่ทำงานอยู่ใกล้ๆ แล้วก็เห็นกันมาตลอด โอปอลล์เป็นคนที่ชอบพูดว่าตัวเองไม่สวยตลอดเวลา แต่พี่เชื่อว่าถ้าเกิดมีผู้หญิงเดินมาสองคนอ้ะ พี่ว่าโอปอลล์จะ “น่ามอง” ก่อน เพราะความน่ามองของเขามันมีพลังอะไรก็ไม่รู้ที่มันจะ ฮัลโหล เฮฮาสนุกสนาน พี่ว่าผู้หญิงแบบนี้อ้ะ สวย แต่ถ้าเกิดว่าผู้หญิงที่หน้าตาดี หุ่นดี พี่ว่านั่นเป็นภาษีของโลกนี้อยู่แล้ว น้องมีอะไรที่เหนือกว่านิดนึง คำว่าเหนือคนอื่นคืออะไร คือหนึ่ง น้องจะได้รับการอนุญาตให้ได้รับการถูกมองเยอะกว่าคนอื่น น้องมาสมัครงาน สองคน เออคนนี้หน้าตาดีเนอะ อะไรอย่างเนี้ย ซึ่งไม่ได้แปลว่าน้องเหนือกว่าคนอื่นทุกด้าน เพียงแต่แค่ว่าเหมือนมีแสงอ้ะ แสงตัวเอง คนที่ไม่สวยเท่าอีกคนหนึ่ง ถ้าจะทำตัวเองให้มีแสงในตัวเอง น้องจะต้องแสดงออกในพละกำลังอย่างอื่น แสดงออกซึ่งความสามารถซึ่งมันก็ไม่แน่นะ พอทำไปทำมาคนนี้อาจจะแสงสว่างกว่าคนสวยเฉยๆ ก็ได้

 

“สวย เก่ง สุขภาพดี” ได้ยินสามคำนี้ พี่อ้อยนึกถึงใครคะ

สวยเก่งสุขภาพดีเหรอ? ป็อป อารียา มั้ง ถ้าคิดเลยนะ แบบนึกขึ้นมาเลย พี่ว่า หนึ่ง ป็อปดูเป็นคนที่ไม่ว่าเขาจะเป็นอยู่บนเวทีนางงาม หรืออยู่ข้างล่าง เขาเป็นคนดูแลตัวเอง คือเป็นผู้หญิงที่ไม่ได้ใช้แต่ความสวยทำนู่นทำนี่อย่างเดียวอ้ะ เคยคุยกับเขาว่าเขาเป็นคนที่คิดอะไรน่าสนใจ และอีกอันนึงนะ พี่รู้สึกว่า การที่เขาจะดูเป็นคนที่สวยสุขภาพดีได้อันหนึ่ง เสน่ห์ของผู้หญิงคนหนึ่งคือ รู้จักคนที่มีโอกาสเมื่อไหร่เขาจะ “ให้” อยากไปทำอันนี้เนอะพี่เนอะ เออเนี่ยเดี๋ยวหนูไปคุยให้ได้ หนูอยากแบบว่า เรียกสติคนโน้น คนนี้ก็ยังดี ถ้าคิดถึงตอนนี้เลยนะ พี่ก็จะคิดถึงอย่างเร็วๆ ก็จะเป็นประมาณเนี้ยอะจ้ะ น้องแมร์ด้วย การะแมร์ก็เป็นอีกคนเป็นน้องรักอีกคนหนึ่งที่ จะบอกว่า “แมร์แกเริ่มออกกำลังกายเยอะไปหน่อย ฉันเริ่มห่วง” อะไรอย่างเนี้ย คือ พี่มีความรู้สึกว่า ทุกอย่างมันคือบารานซ์ของชีวิตแค่นั้นเอง และคนที่เป็นคนสุขภาพดี แปลว่า หนึ่ง เขาให้อะไรดีๆกับตัวเอง เมื่อไหร่ก็ตามทีที่เรารู้จักการให้อะไรกับตัวเอง ความรักตัวเองมันมีพลัง มันจะทำให้คนนั้นดูมีความสวยมากจริงๆ คือมันจะสวยขึ้นมาจาก เออ ดีนะเธอดูแลตัวเองว่ะ เธออยากให้เวลากับตัวเองบ้าง ไม่ใช่ว่าให้เวลากับอะไรก็เยอะแยะมากมายจนกระทั่งลืมไปว่าเดี๋ยวก่อน เธอยังไม่ได้ให้กับคนนี้เลยนะ มันเหมือนในหนัง freelance อ้ะ ร่างกายเราขอโทษ เราอยู่กับร่างกายนี้มาตั้งแต่ลมหายใจแรก ทำไมเราถึงไปทุ่มเทให้กับอะไรไม่รู้ จนลืมร่างกายแรก ลมหายใจแรกของเราเนอะ รักตัวเองมันมีพลังจริงๆ

 

นิสัยของผู้หญิงจะชอบเช็คเรื่องของอีกฝ่ายเป็นปกติอยู่แล้ว เชื่อว่าผู้หญิงเก่งจะมีเซ้นต์ที่เร็วกว่าคนทั่วไป จนบางครั้งไปเจอว่าในโลกโซเชียลของเขา ไม่มีเราอยู่เลย นั่นแปลว่าเราเป็นบุคคลไร้ตัวตนสำหรับเขาไหมคะ

ไม่อ้ะ พี่ว่าคิดมาก คือวันหนึ่งน้องต้องยอมรับอย่างหนึ่งนะ โลกโซเชี่ยลมันเกิดมาไม่กี่ปีนี้เอง แล้วก็เราเองอยู่ใกล้เขามากกว่า ไอ้โลกโซเชี่ยลของเขาอีก คนที่จะสามารถติดต่อสื่อสารกับเขาได้ในโลกโซเชี่ยลก็คือ “เขาต้องขอ Add กันไป ต้องคอยกดไลค์ คอมเม้นท์ หนูเป็นแฟนเขานะ” หนูอยุ่ใกล้กว่าโลกเหล่านั้นตั้งเยอะ น้องจะไปพยายามปรากฏตัวในโลกส่วนตัวของเขามากเกินไปทำไม หรือถ้าน้องจะไปปรากฎตัวอยู่ตรงนั้น มันน่าจะเกิดจากความพึงพอใจจากของเขามากกว่าหรือเปล่า แต่ไม่ใช่เกิดจากการบังคับ อีกอันหนึ่งพี่แอบเถียงว่า ผู้หญิงเก่งต้องเป็นคนที่มีเซนส์มากกว่าผู้หญิงธรรมดาทั่วไป พี่ว่าไม่ ผู้หญิงทุกคนมีเซนส์ พี่ว่าโลกนี้เขาสร้างคนมาอย่างสมดุลจริงๆ นะคะ ยุคดึกดำบรรพ์ ผู้ชายทุกคนจะเป็นคนที่ออกไปล่าสัตว์ พละกำลังแข็งแรง ตัวใหญ่ ผู้หญิงไม่มีพละกำลังเท่าผู้ชาย สิ่งที่ผู้หญิงทำได้คืออยู่ในถ้ำและสังเกตุเอาเห้ยได้ยินเสียงอันนี้ว่ะ เห็นมันมีสัตว์ป่าจะเข้ามาหรือเปล่า เพราะฉะนั้นสัญชาติญาณอันนี้มันจะให้ผู้หญิงเป็นคนช่างสังเกตุเพื่อความเอาตัวรอดของตัวเอง ผู้หญิงก็เลยจะแบบว่า เห้ย ผลไม้แบบนี้ อย่างนี้สุกแล้ว อย่างนี้กินได้จะอยู่รอด เขาถึงให้สีชมพูเป็นสัญลักษณ์ของผู้หญิง สีของท้องฟ้าเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชาย เพราะฉะนั้นผู้หญิงเลยมีความช่างสังเกตุมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เพราะมันคือสัญชาติญาณการเอาตัวรอดของเพศหญิง เพราะฉะนั้นทุกคนมีหมด มันเหมือนที่พี่มักจะพูดบ่อยๆ ว่า ความจริงอยู่ตรงหน้าอ้ะ กล้ารับความจริงหรือยัง

คนบางคนไม่ต้องโทรเข้ามาในคลับ Friday สิ่งที่น้องเล่ามาหมดอ้ะ น้องสงสัยแล้วล่ะ และหลายๆ ครั้งที่แปลกมากที่เราสงสัยก็ใช่แล้วอ้ะ เห้ย พี่มันมีอะไรอ้ะ อืม น้องว่ามันมีอะไรไหมอ้ะ หนูว่ามี แล้วเดี๋ยววันหนึ่งมันก็มีสิ่งนั้นปรากฏจริงๆ เพียงแต่แค่ไอ้การที่อยากจะเข้าไปอยู่ในโซเชี่ยลของเขาพี่ก็เข้าใจว่า เธออยากมีตัวตน กำลังจะบอกว่าโลกโซเชี่ยลมันไกลกว่าโลกแห่งความเป็นจริงตั้งเยอะ ถ้าวันนี้เขาจะไม่มาแท็ก ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องแท็ก เพราะหนูยังเห็นเลยว่าเขาไม่แท็กแปลว่าหนูยังเห็นเฟสบุ้คของเขาอยู่ การไปพยายามที่จะไปมีตัวตนในเฟสบุ้คของเขาเป็นความอึดอัดอย่างหนึ่งนะ พี่รู้สึกแบบนั้นคือ ไม่รู้สิ เวลารักกันดูแลกันแค่อบอุ่นไม่ต้องถึงกับขั้นอึดอัด ไม่อย่างงั้นมันจะรู้สึกเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ อีกฝ่ายรู้สึกว่าไม่มีพื้นที่หายใจเป็นของตัวเองนะ เราเคยพูดกันในคลับ Friday เสมอว่าต่อให้เรารักกัน เรามีกันอยู่สามโลก โลกส่วนตัว โลกส่วนเรา และโลกส่วนรวม โลกส่วนตัวคือมีเธอกับฉัน แต่โลกส่วนตัวกับมีฉันคนเดียวบ้างก็ได้ ฉันอยากเดินช็อปปิ้งไม่จำเป็นต้องมีผู้ชายมาเดินต้อยๆ อยู่ข้างๆ หลายๆ ครั้งที่มีเขาอยู่ดี แต่บางทีจะหยิบอะไร เลือกอะไรนานๆ เข้าก็เกรงใจเขา เห็นไหมค่ะ ว่าอันนี้มันก็จะมีนิดหนึ่งเนอะ บางทีอันไหนที่แบบแยกกันเดินบ้าง โห แฮปปี้มากและเดี๋ยวมาเจอกันนะ มันมีโลกส่วนเรานะ แต่ว่าตอนนี้มีโลกส่วนตัวก่อนนะ เพราะฉะนั้นพี่ว่ามันมีบางพื้นที่ ให้เขามีโลกส่วนตัวของเขาบ้างก็ดี ยังไม่ต้องไปคิดมากว่าทำไมเขาไม่แท็กหนู หนูไม่มีความสำคัญ ทำไมไม่กดไลค์หนู โอ้ยหนู หนูอยู่ในโลกความเป็นจริงของเขาลูก ไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโซเชี่ยลของเขาตลอดเวลาก็ได้

 

อยากฝากอะไร หรือให้กำลังใจอะไรกับชะนีไทยที่ไร้คู่บ้างคะ

อยากจะบอกว่าถ้าย้อนหลังกลับไปสัก 10 กว่าปีคนโสดจะดูน่าสงสารกว่ายุคนี้ เพราะแต่ก่อนเรามักจะตีความว่าคนโสด แปลว่าไม่มีใครเอา พี่จะบอกว่ายุคนี้คนโสดคือ ไม่เอาใคร เยอะแยะมากมาย เพราะฉะนั้นมันไม่ได้เกี่ยวเลยคะว่า “เห้ย! ฉันแย่จังเลย ฉันไม่มีใครมาเลือกฉัน หลายๆ ครั้งเพราะฉันไม่อยากจะเลือกใคร เพียงแต่แค่ตอนที่เราโสด สุข-ทุกข์มันขึ้นอยู่กับเรา แต่เวลามีใครสุข-ทุกข์มันจะไปผูกขาอีกคนหนึ่งทันที เพราะฉะนั้นความสุขที่มันขึ้นกับเราเนี่ย มันมีความอิสระอยู่ในนั้น ถ้าน้องเป็นคนที่เห็นคุณค่าของความโสด พี่ถึงได้ย้ำอีกทีว่า เขาใช้คำว่าสละโสด มันต้องเสียสละเลยทีเดียวนะ กับการที่จะมีใครสักคนหนึ่ง เพราะฉะนั้นถ้าความสุข-ทุกข์ขึ้นอยู่กับเรา ใช้ความสุขนั้นให้เต็มที่ อยากไปไหนไป อยากทำสิ่งดีๆ ให้ตัวเองก็ทำ มีความสุขกับการที่ตอนนี้ ไม่ต้องมีใคร แล้วเดี๋ยวจะมีคนมาขอแบ่งความสุขใกล้ๆ วันนั้นน้องค่อยคิดมากอีกทีว่า แหม้ พอฉันโสดมันดีจะตายเนอะ คนเนี้ยน่ารักมากพอจะให้ฉันสละความสุขซึ่งความโสดหรือเปล่า เพราะฉะนั้นพี่จะเป็นคนที่ไม่ให้กำลังใจคนที่โสด พี่แค่บอกว่าน้องโสดให้สุขให้เต็มที่เลย เพราะความสุขทั้งหมดอยู่ในมือของเรา แล้วเอาไว้ถ้าวันหนึ่งมีความรัก ขอให้เลือกใครสักคนหนึ่ง ที่เลือกด้วยภาวะหัวใจที่แข็งแรง อย่าเลือกใครเพียงเพราะกลัวเหงา อย่าเลือกใครเพียงเพราะว่าจะหลุดจากสถานะภาพความโสด โสดมันก็แค่แก้เหงา หาวิธีแก้เหงานะคะ ดีกว่าหาวิธีแก้เศร้าทั้งๆ ที่เขาไม่ใช่ มีคนเยอะมากที่มีใครก็ได้ ได้แล้วค่ะ  พี่คะ คนนี้โอเคแล้วค่ะ คนนี้เขาเป็นสเปคหนูเลยใช่จริงป้ะ ก็หยวนๆ ได้ค่ะ แล้วพอวันหนึ่งไปค้นพบว่า เขาก็ไม่ค่อยใช่เท่าไหร่ หนูจะค้นพบเลยว่าการไม่มีใครกลับดีกว่าการพยายามรักคนที่ไม่ใช่ แล้วปล่อยให้เขาทำร้ายจิตใจเรื่อยๆ เนอะ เพราะฉะนั้นมีความสุขให้เต็มที่ค่ะ ตอนนี้ความสุขอยู่ในมือน้องแล้ว

คำแนะนำสำหรับน้องๆ ที่อยากเป็นดีเจแต่ยังค้นไม่พบตัวเองว่าอยากเป็นดีเจแบบไหนกันแน่

พี่อ้อยว่าพี่อาจจะเป็นคนที่โชคดีหน่อยที่รู้ตัวเองไว เพราะอยากเป็นดีเจตังแต่ตอนมัธยมต้นค่ะ แต่ถ้าสมมุติว่าตัวเองยังไม่รู้เลยว่าชอบอะไร เวลาพี่ไปพูดตามมหาวิทยาลัย หลายๆ คนจะจบปีสี่อยู่แล้วยังไม่รู้เลยว่าหนูชอบมันหรือเปล่า ก็อาจจะไม่แปลกก็ได้นะ เพราะฉะนั้นไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ให้รู้ว่าตัวเองไม่ชอบอะไรก็ยังดี คือวิ่งเข้าชนมันก่อน โอกาสมา ฉันทำอันนี้ โอ้ยพี่ไม่โอเคเลยว่ะ ไม่ชอบทำหนังว่ะ โอเคร ตัดหนังออกแล้วลองดูว่าโอกาสอันไหนมาก็ทำต่อ ถ้าบังเอิญว่าตัวเองอยากเป็นดีเจ พี่อยากให้เราพัฒนาการเป็นดีเจจากการเป็นคนฟังที่เก่งมาก่อน การเป็นคนฟังที่เก่งคืออะไร คือหนึ่ง เวลาน้องฟังรายการอะไรก็ตามที น้องสามารถฟังอย่างวิเคราะห์วิจารณ์ได้ ไม่ใช่แค่ฟังแค่เพลงเพลินๆ แล้วก็จะพูดปั๊ป อ้าวเปลี่ยนช่องไปหาเพลงฟัง พี่ว่าลองฟังอย่างวิเคราะห์ ถ้าเป็นเราเปิดเพลงนี้จบเราจะพูดอะไร หรือ บางคนเป็นอย่างนี้เลยนะคะ เปิดเพลงฟังในวิทยุ พอเพลงกำลังจะจบแล้ว เราเบาเสียงลงแล้วลองพูด เมื่อไหร่ก็ตามที่เราคุ้นเคยกับการพยายามเป็นผู้เล่าเรื่องคุ้นเคยกับการเลือกเพลง และมีความตั้งใจอยากให้คนที่ฟังรายการเรามีความสุข แปลว่าน้องได้ก้าวเท้าสู่อาชีพดีเจกว่าครึ่งแล้วนะ หลังจากนั้นค่อยมาฝึกต่อ ฝึกต่อในการที่นี้คือ หนึ่ง พี่มักจะมีหลักสูตรง่ายๆ เสมอ ต้องเป็นคนฟังที่ฟังเก่งมาก่อน วันหนึ่งที่น้องเป็นดีเจน้องจะรู้ว่าน้องฟังแล้วน้องไม่ชอบอะไร ตอนจัดอย่าทำ เพราะเราคือคนฟังคนหนึ่ง ใช่ไหมคะ? อันต่อมา คนเป็นดีเจต้องหมั่นหาความรู้ใส่ตัว เพราะห้องจัดรายการมันเล็กแค่นี้ ถ้าน้องไม่หาความรู้ใส่ตัวมาเลย ทุกวันน้องจะพูดเรื่องเดิมๆ เพราะฉะนั้นคนฟัง ฟังวันนี้ ฟังอีกเดือนหนึ่ง ฟังอีกปีหนึ่ง น้องพูดเรื่องเดิมหมด ไม่ต้องฟังน้องก็ได้ ต้องเป็นคนที่ in put ในชีวิต แล้วหลังจากนั้น ความสามารถในการ out put เป็นความสามารถในการเล่าเรื่องขนาดไหน ทัศนะคติแง่ดี และตั้งใจอยากให้รายการของเราเป็นประโยชน์ พี่ขอแค่ 3-4 ข้อเนี้ย ทุกคนก็สามารถเป็นดีเจได้ ฝึกกันได้ค่ะ ยุคนี้โชคดีกว่า ยุคพี่ตั้งเยอะ น้องมีสื่อในมือเต็มหมดเลย ลองฝึก ลองทำก่อน อย่าคิดว่าความแรงเท่านั้นที่ทำให้คนหนึ่งกลายเป็นคนดำ เพราะหลายๆ ครั้งความแรงจะกลายเป็นความเร็วและไปไว น้องตั้งใจจริง แล้วอยากให้คนฟังมีความสุขกับการทุกอย่าง สามารถเป็นดีเจได้นานๆ ค่ะ