หลายคนอาจปฏิเสธว่า ชั้น/ผม เป็นคนไม่ใช้เครื่องสำอาง เพราะสวยหล่อแบบธรรมชาติอยู่แล้ว แต่ความจริงก็คือ เครื่องสำอางไม่ได้หมายถึงแค่ ลิปสติก รองพื้น หรือดินสอเขียนคิ้วเท่านั้น เพราะได้ครอบคลุมไปถึง แชมพู สบู่ ยาสระผม หรือแม้กระทั่งยาสีฟันกันเลยทีเดียว! แสดงให้เห็นว่าตั้งแต่เช้าตื่นนอน ก่อนออกจากบ้านมา เราทุกคนต่างได้ใช้เครื่องสำอางกันถ้วนหน้าแล้ว

แต่...เราจะรู้ความหมายของเครื่องสำอางกันไปเพื่ออะไร?

สินค้าทุกชนิดที่เราใช้ ควรมีความปลอดภัยในตัวของมันเอง ซึ่งหากเราทราบว่ากฎหมายประเภทใดที่คอยกำกับดูแลหรือควบคุมสินค้าชนิดนั้นๆ อยู่ อาจส่งผลให้เราเลือกซื้อเลือกซื้อได้อย่างชาญฉลาดและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากเราทุกคนจำเป็นต้องใช้เครื่องสำอางในชีวิตกันเป็นประจำอยู่แล้ว มันจะดีแค่ไหน หากเรามีเคล็ดลับหรืออาวุธในการเลือกใช้ให้เหมาะสม โดยเทคนิคก็มีง่ายๆ เพียงไม่กี่ข้อ สามารถเริ่มต้นได้จาก

1. รู้ว่าสิ่งที่เรากำลังใช้อยู่เป็นเครื่องสำอาง ซึ่งไม่มีอิทธฤทธิ์ใดๆ ในการรักษาผิวหน้าให้ดีขึ้น เพราะสามารถทำได้เพียงแค่ทำความสะอาด หรือส่งเสริมให้เกิดความสวยงามชั่วคราวเท่านั้น

2. ต้องมีเลขที่จดแจ้ง 10 – 13 หลัก นอกกรอบเครื่องหมาย อย. เพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นเครื่องสำอางที่ได้รับอนุญาตให้ขาย เพราะไม่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ ซึ่งเราสามารถตรวจสอบเลขที่จดแจ้งบนฉลากของเครื่องสำอางนั้นๆ ว่ามีรายละเอียดถูกต้อง หรือตรงกับที่ผู้ผลิตขออนุญาตไว้หรือเปล่าได้ง่ายๆ ผ่านทางเว็บไซต์ของ อย. โดยไม่จำเป็นต้องเดินทาง นำผลิตภัณฑ์ไปตรวจสอบที่สำนักงานใดๆ

3. นอกจากมีเลขที่จดแจ้งให้สบายใจแล้ว ยังสมควรมีฉลากภาษาไทยกำกับ ซึ่งอย่างน้อยต้องระบุข้อความ เช่น ชื่อเครื่องสำอางหรือชื่อทางการค้า ส่วนผสมในการผลิต วิธีการใช้ ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต ปริมาณสุทธิ หรือเลขที่แสดงครั้งที่ผลิต เพราะในกรณีเกิดปัญหาใดๆ กับผู้ใช้ เราจะได้สามารถตามตัวผู้ผลิต เพื่อขอให้แสดงความรับผิดชอบได้นั่นเอง

Tags:
• เครื่องสำอาง