Jun 12, 2019 452 view Moodymuay
คฤหาสน์อาถรรพ์วินเชสเตอร์นั้นมีชื่อเสียงทั้งในด้านประวัติศาสตร์และในหมู่ผู้สนใจเรื่องลึกลับ เพราะคฤหาสน์แห่งนี้เต็มไปด้วยบันไดที่คดเคี้ยว, ประตูที่ไม่มีทางไปต่อ และการหลอกหลอนของวิญญาณ แต่ในขณะที่บ้านเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมือง ตัวเจ้าของบ้านผู้มีเสน่ห์กลับเป็นสิ่งที่ผู้คนไม่ค่อยนึกถึงซักเท่าไหร่
ซาร่าห์ วินเชสเตอร์ กลายเป็นพาดหัวข่าวในระหว่างการก่อสร้างคฤหาสน์เขาวงกตอันลึกลับของเธอ แต่นอกเหนือจากข่าวลือเรื่องความเสียสติและความหลงใหลในอาถรรพ์ ก็ไม่มีใครรู้เรื่องราวของเธอมากนัก แล้วใครล่ะคือหญิงสาวที่สร้างบ้านอันเลื่องลือหลังนี้?
ชีวิตในวัยเด็กของซาร่าห์ วินเชสเตอร์
ก่อนที่จะมีการสร้างบ้านวินเชสเตอร์และก่อนเรื่องสยองขวัญจะเกิดขึ้น ซาร่าห์ วินเชสเตอร์ก็เป็นหญิงสาวธรรมดาที่ฐานะร่ำรวยคนหนึ่ง ในปี 1840 เธอเกิดในมาครอบครัวชั้นสูงแห่งนิวเฮเวน รัฐคอนเนตทิคัต ซาร่าห์มีความสุขกับชีวิตหรูหราของเธอเพราะเลียวนาร์ด ปาร์ดี พ่อของเธอเป็นเจ้าของโรงงานผลิตรถที่ร่ำรวย และแม่ของเธอก็โด่งดังในสังคมชนชั้นสูงของนิวเฮเวน
ทั้งครอบครัวได้ดำเนินการให้ลูกๆ ทั้ง 7 คนมีความรอบรู้และรอบด้าน ซาร่าห์เรียนรู้ถึง 4 ภาษาในขณะที่ยังเป็นเด็กและได้รับการตอบรับเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเยล ด้วยสถานะชนชั้นสูงในสังคมทำให้ซาร่าห์อยู่ในจุดที่เหมาะสมที่จะเลือกแต่งงานกับชายที่มีสถานะทางสังคมที่เท่าเทียมกัน และเพื่อทำให้เรื่องง่ายขึ้นครอบครัวปาร์ดี ได้ทำความรู้จักกับครอบครัวที่ร่ำรวยครอบครัวอื่นๆ ผ่านการไปเข้าโบสถ์ และในเวลานั้นซาร่าห์ก็อยู่ในช่วงวัยที่เหมาะสมสำหรับแต่งงานพอดี พ่อแม่ของเธอมีคนที่หมายตาเอาไว้แล้ว ซึ่งก็คือวิลเลียม เวิร์ต วินเชสเตอร์ ชายที่ทั้งคู่มั่นใจว่าจะดูแลลูกสาวของพวกเขาไปตลอดชีวิต
วิลเลียม วินเชสเตอร์เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของโอลิเวอร์ วินเชสเตอร์ เจ้าของโรงงานผลิตอาวุธปืน และเป็นทายาทที่จะรับช่วงต่อจากกิจการของบริษัท Winchester Repeating Arms ซึ่งมีชื่อเสียงในฐานะหนึ่งในบริษัทแรกๆ ที่ผลิตอาวุธปืนที่สามารถยิงได้หลายรอบโดยไม่ต้องโหลดกระสุนซ้ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่น 1873 ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้ตั้งถิ่นฐานและถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในช่วงสงครามอเมริกันอินเดียน
ท่ามกลางยอดขายจำนวนมากและความนิยมที่เพิ่มขึ้น ครอบครัววินเชสเตอร์ ก็ได้สะสมเคราะห์กรรมมากขึ้นไปด้วย เคราะห์กรรมซึ่งกลายมาเป็นรากฐานของความหลงใหลที่แปลกประหลาดของซาร่าห์ วินเชสเตอร์
โศกนาฏกรรมในครอบครัววินเชสเตอร์
วิลเลียมและซาร่าห์ วินเชสเตอร์ แต่งงานกันในเดือนกันยายน 1862 และในระหว่างที่แต่งงานกัน วิลเลียมก็ทำงานเป็นเหรัญญิกในบริษัทของครอบครัวร่วมกับพ่อของเขา และ 4 ปีหลังจากทั้งคู่แต่งงานกัน ซาร่าห์ก็ให้กำเนิดลูกสาวที่ชื่อแอนนี่ ปาร์ดี วินเชสเตอร์ แต่โชคร้ายที่ความสุขของครอบครัววินเชสเตอร์นั้นอยู่ได้เพียงไม่นาน หลังจากเกิดมาได้เพียง 40 วัน หนูน้อยแอนนี่ก็เสียชีวิตจากโรคมาราสมัส ซึ่งเป็นโรคหายากที่ทำให้ร่างกายได้รับความทรมานจากการขาดสารอาหาร เนื่องจากไม่สามารถเผาผลาญโปรตีนได้
และด้วยเหตุผลบางอย่าง ซาร่าห์ไม่เคยทำใจจากการสูญเสียลูกสาวได้ แม้ว่าเธอและวิลเลียมจะยังคงแต่งงานกัน แต่เธอก็ยิ่งเป็นทุกข์ขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งความทุกข์นี้มีที่มาจากแหล่งรายได้และความมั่งคั่งของบริษัท เพราะในสายตาของซาร่าห์ เธอคิดว่าธุรกิจของครอบครัววินเชสเตอร์ นั้นเปื้อนเลือดและหาเงินจากความตายของผู้คนซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่สามารถรับมือได้
และสิ่งต่างๆ ก็ยิ่งยุ่งยากมากขึ้นเมื่อโอลิเวอร์เสียชีวิตลงในปี 1880 ทิ้งบริษัทไว้ในมือของลูกชายเพียงคนเดียว แต่หลังจากนั้นเพียง 1 ปี วิลเลียมก็ป่วยอย่างกระทันหันและเสียชีวิตจากวัณโรค ทิ้งทุกสิ่งไว้ให้กับซาร่าห์และในทันใดนั้นซาร่าห์ก็ได้ครอบครองทรัพย์สินมูลค่ากว่า 20 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 500 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน) และถือหุ้น 50% ของบริษัท Winchester Repeating Arms แม้ว่าเธอจะไม่เคยทำธุรกิจมาก่อน แต่หุ้นก็ทำให้เธอก็มีรายได้อย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนวันละ 1,000 เหรียญ (ประมาณ 26,000 ดอลลาร์ในปัจจุบัน)
ข้อความจากที่อันไกลโพ้น
ในความคิดของซาร่าห์เธอมองว่ารายได้ที่เธอได้รับนั้นเป็นเงินเปื้อนเลือดที่มาจากความตายของผู้คนนับพัน และเพื่อหาวิธีจัดการกับเงิน ซาร่าห์ขอความช่วยเหลือจากร่างทรงในบอสตัน เธอเล่าเรื่องความรู้สึกผิดของเธอที่มีต่อเหยื่อของปืนวินเชสเตอร์ให้ร่างทรงฟัง ซึ่งเขากล่าวว่า ซาร่าห์จะต้องถูกทรมาน เว้นแต่เธอจะปลดปล่อยวิญญาณของเหยื่อเหล่านี้ นอกจากนี้เขายังบอกเธอว่าวิธีเดียวที่จะทำได้ก็คือย้ายไปทางตะวันตกและสร้างบ้านให้กับวิญญาณที่หลงทางเหล่านี้
ไม่มีใครอยากเสี่ยงต่อการถูกสาปแช่งชั่วนิรันดร์ด้วยน้ำมือของวิญญาณที่โกรธแค้น ซาร่าห์จึงทำตามที่ร่างทรงแนะนำ เธอเก็บข้าวของและย้ายไปทางตะวันตกให้ไกลจากนิวอิงแลนด์มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เธอย้ายไปยัง ซาน โฮเซ่, แคลิฟอร์เนีย เมืองชายทะเลที่มีแสงแดดส่องสว่างเสมอ
คฤหาสน์อาถรรพ์วินเชสเตอร์
ในปี 1884 ซาร่าห์ซื้อบ้านไร่ที่ยังสร้างไม่เสร็จหลังหนึ่งในหุบเขาซานตาคลารา และแทนที่จะจ้างสถาปนิก เธอกลับรวบรวมทีมช่างไม้และสั่งงานกับพวกเขาโดยตรงให้สร้างบ้านตามที่เธอเห็นว่าเหมาะสม ในเวลาไม่นานบ้านไร่หลังนี้ก็กลายเป็นอาคารขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นโดยทีมงานที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ซาร่าห์มักจะได้รับการแวะเวียนมาหาโดยคนทรงจากทั่วเมือง เนื่องจากเธอเชิญพวกเขามาเพื่อแนะนำวิธีเอาใจวิญญาณ
ซาร่าห์ก็ไม่เคยหยุดก่อสร้างบ้านหลังนี้ เธอมักจะต่อเติมและแก้ไขเพื่อทำให้เหล่าวิญญาณสับสนและไม่สามารถติดต่อกับเธอได้โดยตรง เธอเพิ่มสิ่งแปลกๆ เข้าไปในการก่อสร้างมากมายเช่น บันไดที่สิ้นสุดอย่างกะทันหัน, หน้าต่างที่เปิดเข้าไปสู่ภายในห้อง, ประตูที่เปิดไปเจอบันได และโถงทางเดินที่ดูเหมือนไม่มีทางไปก่อนจะวนกลับมาที่เดิม บางทีเธออาจจะหวังว่าวิญญาณเหล่านั้นจะหลงทางจนไปหลอกเธอไม่ได้นั่นเอง
นอกเหนือจากการดัดแปลงแปลกๆ เหล่านี้เธอยังเพิ่มเติมบางอย่างให้กับตัวเองเช่น การตกแต่งที่หรูหรา, พื้นไม้ปาร์เก้, โคมไฟระย้าทำจากคริสตัล, ประตูสีทอง และหน้าต่างกระจกสีที่ทำด้วยมือของหลุยส์ คอมฟอร์ท ทิฟฟานี ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบคนแรกของ ทิฟฟานี่ แอนด์ โค
นอกจากนี้บ้านหลังนี้ยังเต็มไปด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำเท่าที่เงินจะสามารถซื้อได้ ซึ่งรวมทั้งเครื่องทำความร้อนและเครื่องทำน้ำอุ่นอีกด้วย บ้านหลังนี้แสดงให้เห็นถึงความร่ำรวยของซาร่าห์ วินเชสเตอร์ ทั้งในด้านความงดงามและความเหนือธรรมชาติไปพร้อมๆ กัน
ไม่ได้มีแค่คฤหาสน์
นอกจากสร้างคฤหาสน์อาถรรพ์แล้ว ซาร่าห์ยังเป็นที่รู้จักในแง่มุมอื่นๆ อีกด้วย 4 ปีหลังจากการสร้างคฤหาสน์ ซาร่าห์ก็ซื้อที่ดินขนาด 140 เอเคอร์ ในเมืองลอส อัลตอส, แคลิฟอร์เนีย ในปัจจุบัน และซื้อบ้านไร่ใกล้เคียงกันให้กับน้องสาวและน้องเขยของเธอ
ในขณะที่เธออาศัยอยู่ที่คฤหาสน์วินเชสเตอร์ระหว่างการก่อสร้าง ซาร่าห์ก็ยังดูแลเรือนแพที่ซื้อมาในซานฟรานซิสโกอีกด้วย มีเสียงเล่าลือว่ากันว่าซาร่าห์เก็บเรือเอาไว้ในชื่อ"เรือของซาร่าห์" เพื่อเป็นหลักประกันสำหรับเหตุการณ์น้ำท่วมที่ถูกอ้างถึงในพันธสัญญาเดิม ซึ่งซาร่าห์จินตนาการว่ามันจะเกิดขึ้นจริงในอนาคต แต่ในอีกแง่มุมนึงผู้คนก็เชื่อว่าเหล่าชนชั้นสูงที่เธอมักจะใช้เวลาอยู่ด้วยมักจะมีเรือนแพไว้ในครอบครอง เธอจึงมีเรือไว้เพื่อรักษาสถานะทางสังคมเท่านั้น
การเสียชีวิตอย่างสงบของซาร่าห์ วินเชสเตอร์
หลังจากย้ายไปที่ซาน โฮเซ่ ในตอนปลายของยุค 1800 ซาร่าห์ก็สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองด้วยความหมกมุ่นเกี่ยวกับเรื่องวิญญาณ มักจะมีการลือว่าเธอเสียสติและถูกผีสิงในขณะที่เธอมีชีวิตอยู่
ในเดือนกันยายน 1922 ซาร่าห์ วินเชสเตอร์ ก็หลับไปอย่างสงบ บ้านของเธอถูกส่งต่อไปยังเลขานุการและหลานสาวของเธอ ซึ่งขายมันในการประมูล ในวันนี้บ้านวินเชสเตอร์ยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในซาน โฮเซ่ ซึ่งดึงดูดความสนใจของผู้คนด้วยห้องโถงแปลกประหลาด หน้าต่าง ประตู และห้องมากมายกว่า 160 ห้อง
นอกจากนี้เรื่องราวของเธอยังถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์สยองขวัญที่ชื่อ Winchester อีกด้วย แม้จะไม่มีหลักฐานของการถูกผีสิงหรือการปรากฏตัวของวิญญาณในบ้านหลังนี้ แต่ตำนานในคฤหาสน์หลังนี้ก็ยังคงมีชีวิตต่อไป
Cr.allthatsinteresting