พระบาทสมเด็จพระปรมิณมหาภูมิพล พระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่เพียงแต่ทรงเป็นนักประดิษฐ์และนักวิทยาศาสตร์เพียงด้านใดด้านหนึ่งแต่พระองค์ยังทรงพระปรีชาความสามารถในศาสตร์และศิลป์ทุกแขนงจนยากจะหาผู้ใดมาเทียบโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านศิลปะด้วยเหตุนี้เองผมจึงอยากจะพาผู้อ่านทุกๆ ท่านมาร่วมย้อนรำลึกถึงพระอัจฉริยะภาพทางด้านนี้ของพ่อผู้ยิ่งใหญ่ที่เป็นดังตัวอย่างและแนวทางให้กับลูกๆ ทุกคนในแผ่นดิน

พระอัจฉริยภาพด้านดนตรี

มาเริ่มกันที่ด้านแรกในหมวดแขนงศิลปะกันเลยดีกว่าครับกับพระอัฉริยะภาพทางด้านดนตรีซึ่งเด่นชัดและปรากฏให้เห็นต่อสายตาชาวไทยมาแล้ว ซึ่งพระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถในเครื่องดนตรีที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น แซกโซโฟน คลาริเน็ต ทรัมเป็ต กีต้าร์ และ เปียโน พระองค์ก็ทรงเล่นเป็นทั้งนั้น โดยจะทรงเล่นกับสมาชิกคนอื่นๆ จนมีการจัดตั้ง วงดนตรี อ.ส.วันศุกร์ขึ้นมานั่นเอง

สำหรับเพลงพระราชนิพนธ์ของพระองค์นั้นมีอยู่ด้วยกันถึง 48 เพลง (ในหลวง ร. 9 ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นตั้งแต่ทรงมีพระชนมายุได้ 18 พรรษา) อันได้แก่เพลง แสงเทียน ชะตาชีวิต ใกล้รุ่ง ยิ้มสู้ และอีกมากมายถือเป็นอีกหนึ่งผลงานอันมีค่าที่คนไทยทุกคนควรจะหามารับฟังเป็นอย่างยิ่ง

พระอัจฉริยภาพด้านจิตรกรรมฝีพระหัตถ์

ไม่เพียงแต่ด้านดนตรีเท่านั้นที่พระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถแต่ในด้านจิตกรรมฝีพระหัตถ์พระองค์ก็ทรงมีพระปรีชายิ่งนัก โดยพระองค์ทรงฝึกเขียนและศึกษาจากตำราด้านต่างๆ เมื่อพระองค์ทรงสนพระราชหฤทัยในงานของผู้ใด ก็จะเสด็จไปเยี่ยมศิลปินผู้นั้นถึงที่พักเพื่อทรงทอดพระเนตรศึกษาและนำมาประยุกต์ใช้ ซึ่งโดยหลักๆ แล้วนั้นผลงานของพระองค์จะแบ่งได้อยู่ 3 ประเภทนั่นก็คือ ภาพแบบเหมือนจริง คตินิยมแบบลัทธิเอ็กเพรสชั่นนิสต์ และศิลปะแบบนามธรรม

พระอัจฉริยภาพด้านภาพถ่ายฝีพระหัตถ์

ถือเป็นศิลปะอีกด้านหนึ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงชำนาญการเป็นพิเศษเนื่องจากพระองค์ได้ทรงคลุกคลีอยู่กับกล้องถ่าายรูปมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ซึ่งไม่เพียงแต่ภาพถ่ายเท่านั้นแต่พระองค์ยังทรงมีพระปรีชาในด้านการถ่ายภาพยนตร์จนได้ออกมาเป็นภาพยนตร์ส่วนพระองค์หลายต่อหลายเรื่อง โดยหลังจากที่พระองค์ทรงเสด็จขึ้นครองราชแล้วนั้นพระองค์ก็ได้ฉายพระรูปของสมเด็จพระบรมราชินีนาถพร้อมตรัสว่า "She is my Smile" หรือ สมเด็จพระบรมราชินินาถคือรรอยยิ้มของพระองค์นั่นเอง อย่างไรก็ตามไม่เพียงแต่การถ่ายรูปพระบรมวงศ์หรือเหล่าข้าราชการแต่พระองค์ยังทรงถ่ายพื้นที่และเหตุการณ์ต่างๆ เพื่อนำมาช่วยแก้ไขและพัฒนาให้ประเทศไทยอยู่ยั่งยืนยงมาจนถึงทุกวันนี้

พระอัจฉริยภาพด้านวรรณศิลป์

สำหรับพระอัจฉริยะภาพทางด้านนี้คงไม่ต้องเอ่ยอะไรมากนักเพราะหลายๆ คนน่าจะเคยได้อ่านพระราชนิพนธ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 กันมาแล้วหลายต่อหลายเรื่องๆม่ว่าจะเป็น นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ, ติโต, เมื่อข้าพเจ้าจากสยามสู่สวิสเซอแลนด์,พระราชานุกิจรัชกาลที่ 8 หรือที่โดดเด่นที่สุดนั่นก็คือพระมหาชนกหนังสือที่สอนอะไรหลายๆ อย่างให้กับประชาชนของพระองค์

ซึ่งหลังจากที่หลายๆ คนได้อ่านมาจนถึงจุดนี้แล้วนั้นพวกเราคงกล่าวได้อย่างเต็มปากและภาคภูมิใจว่าพะอัจฉริยะภาพของในหลวงรัชกาลที่ 9 นั้นทรงเป็นที่ประจักษ์ชัดเจนแก่ชาวไทยทุกทุกคนเป็นอย่างดีสมดังพระราชสมัญญานามที่ยิ่งใหญ่ว่า "อัครศิลปิน" อย่างแท้จริง

Tags:
• ศิลปะ
• ในหลวง
• ในหลวง ร.9