ยุคนี้คนทำงานอย่างเรามีวันหยุดกันอาทิตย์ละ 2 วันหรือบางคนก็หยุดแค่อาทิตย์ละ 1 วันเท่านั้นเอง จะออกไปเที่ยวไกลจากกรุงเทพมากก็กลัวร่างจะแหลกซะก่อนงั้นลองมาหาร้านอาหารใกล้ ๆ ในกรุงเทพไม่ต้องเดินทางไกลมาก แต่ฟินทั้งบรรยากาศ ฟินทั้งรสชาติอาหารกันดีกว่า

 

 

 

ร้านกะทินี้เป็นร้านอาหารที่ให้กลิ่นอายคาเฟ่อยู่เล็ก ๆ แต่สิ่งที่มีอยู่แบบเต็ม ๆ และเรารับรู้ได้เลยก็คือกลิ่นของอาหารไทยแท้ ๆ ที่ออกมาต้อนรับเราตั้งแต่เดินเข้าประตูมาเลยค่ะ ร้านจะมีโซนนั่งแบ่งเป็นสามโซน โซนแรกกับโซนที่ 2 จะอยู่ติดกัน ส่วนอีกโซนจะแยกไปอยู่ทางด้านหลังเลยค่ะ แต่แน่นอนว่าทุกโซนไม่มีแออัดยัดเยียดนั่งกันแบบสบาย ๆ ตกแต่งผสมความเป็นธรรมชาติด้วยสีที่ดูสบายตา เมนูอาหารส่วนใหญ่จะเป็นเมนูอาหารไทยโบราณค่ะ บางเมนูก็หาทานได้ยากมาก ๆ ถ้าใครอยากลองชิมรสชาติอาหารไทยแท้ ๆ มาที่นี่ถือว่าถูกค่ะ นอกจากอาหารไทยแล้วก็ยังมีขนมไทยไม่ว่าจะเป็นขนมไทยชุดใหญ่ที่รวมขนมไทยที่หลากหลายเอาไว้หลายเมนูด้วยกัน หรือถ้ากลัวว่าจะทานไม่หมดก็สั่งชุดเล็กก็ได้ค่ะ นอกจากขนมไทยแล้วก็ยังมี น้ำอื่น ๆ รวมไปถึงกาแฟและเบเกอรี่อีกมากมายให้เลือกทางกันถ้ากระเพาะของคุณยังรับไหวต้องไม่พลาดที่จะสั่งมาชิมให้ได้เลยนะคะ

 

เมนูแรกที่ พุดซ้อน เลือกสั่งมาเลยก็คือเจ้านี่แหละค่ะ หมูโสร่ง แหมดูหนังเรื่อง บุพเพสันนิวาสแล้วก็อดไม่ได้ต้องสั่งมาลองชิมดูอยากรู้เหลือเกินรสชาติมันเป็นยังไง อันนี้ด้านนอกที่ห่อด้วยหมี่ซั่วจะกรุบกรอบค่ะส่วนด้านในจะเป็นหมูที่ปรุงรสมาค่อนข้างมีรสชาติมากเลยทีเดียว ที่เด็ดจริง ๆ คงจะเป็นน้ำจิ้มนี่แหละค่ะไม่แน่ใจว่าผสมไข่แดงเค็มมาหรือเปล่าแต่มันหวานนัว ๆ ได้รสชาติดีเหลือเกินอร่อยแบบกินหมดแล้วอยากกินอีกเลยค่ะ

 

 

เมนูถัดมาบอกเลยว่าต้องทานคู่กันค่ะฟินม๊ากก กก  คือให้ทานคู่กันเพราะมันเผ็ชแซ่บแบบควันออกหูจริง ๆ ตัวรวมทะเลผัดพริกขี้หนูนี้จะมีปลาทอด กุ้งและปลาหมึก ส่วนข้าวที่ทานคู่กันนั้นเป็นข้าวกะทิอัญชันในข้าวนั้นมีผสมตัวมะพร้าวคั่วมาจะได้กลิ่นและรสชาติเหมือนกับเราทานเมี่ยงคำอยู่เลยค่ะหอมมะพร้าวมาก แนะนำแบบขีดเส้นใต้ใหญ่ ๆ เลยว่าเมนูนี้เผ็ดมากจริง ๆ ค่ะควรทานร่วมกับข้าวสวยหรือข้าวกะทิอัญชันแบบ พุดซ้อน ก็ได้ค่ะ

 

 

ด้วยความที่ไปกันแค่ 2 คนเลยสั่งเมนูนี้มาทานเป็นอย่างสุดท้ายค่ะจริง ๆ คือเอามาเพื่อดับเผ็ดจากเมนูที่แล้วนั่นเอง เมนูไข่เจียวนี้ไม่ใช่ไข่เจียวธรรมดาค่ะ เพราะสอดไส้ด้วยกุ้งเน้น ๆ บวกกับเนื้อมะพร้าวทำให้เราได้กลิ่นมะพร้าวหอม ๆ อยู่ตลอดเวลาที่ทานแหมมีมะพร้าวในหลาย ๆ เมนูแบบนี้สมกับชื่อร้าน กะทิ จริง ๆ ค่ะ

 

 

แต่แน่นอนค่ะว่าผู้หญิงอย่างเรามักมีกระเพาะเอาไว้ทานของหวานเสมอ ว่าแล้วก็จัดไปเลยจ้าโรตีแสนอร่อย ไอศกรีมตรงกลางนั้นเป็นไอศกรีมกะทิหอมที่อร่อยมากค่ะเนื้อไม่ได้ข้น ๆ หนืด ๆ แต่จะคล้าย ๆ เนื้อเชอร์เบทมากกว่า ด้านบนโรตีโรยอะไรมาไม่แน่ใจแต่มีรสชาติออกเค็มเล็ก ๆ มาตัดเลี่ยนได้ดีทีเดียว

 

 

มุมถ่ายรูปที่ห้ามพลาด

มุมนี้จะอยู่ด้านนอกตัวร้านค่ะเป็นที่ ๆ น่าจะเตรียมไว้ให้เราถ่ายรูปชิค ๆ กันโดยเฉพาะมีอุปกรณ์มากมายให้เราเลื่อนยกย้ายเข้าเฟรมถ่ายได้เต็มที่เลย แต่ขอบอกเลยว่าถ้าไปถ่ายช่วงบ่าย ๆ หรือเที่ยงเนี่ยต้องมีสุกกันไปข้างเพราะร้อนสุด ๆ เลยค่ะ

 

 

อันนี้เป็นมุมตรงข้ามกันกับภาพด้านบนค่ะ จะเป็นเคาน์เตอร์กลมและมีเก้าอี้ไม้ให้นั่งแต่ดูจากลักษณะแล้ว พุดซ้อน น่าจะนั่งไม่ไหวเดี๋ยวจะกลายเป็นทำลายทรัพย์สินเอาเปล่า ๆ เลยเอามือแตะ ๆ เอาละกันเนอะ

 

 

กำแพงดอกไม้นี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งมุมที่ห้ามพลาดค่ะ ตัวกำแพงนี้จะอยู่ติดกับโซนแยกด้านหลังและเป็นทางผ่านไปเข้าห้องน้ำ ถ้าทานอาหารกันเสร็จแล้วอย่าลืมแวะมาถ่ายรูปกับกำแพงดอกไม้นี้ให้ได้เลยนะคะ

 

 

มาถึงมุมน่าถ่ายมุมสุดท้ายจะอยู่บริเวณทางเข้าร้านค่ะเยื้องกับที่ถ่ายกำแพงอิฐภาพแรกมาเล็กน้อยตรงนี้จะมีดอกหญ้าขึ้นอยู่เล็กน้อยถ่ายอยากจะถ่ายให้ได้ประมาณในภาพนี้ทั้งตากล้องและคนโดนถ่ายต้องกลายเป็นสายย่อกันอยู่ซักพักเลยล่ะค่ะ แต่ตรงนี้ขอเน้นว่าถ่ายกับแสงตอนเย็นคือดีย์มากกกกกกกกก ใครไปช่วงเวลาเย็น ๆ ต้องห้ามพลาดมุมนี้เลยนะคะ

 

สรุปรวม ๆ แล้วจะมาซ้ำร้านนี้อย่างแน่นอนค่ะ บรรยากาศโอเค รสชาติอาหารยิ่งโอเคมาก ๆ ถึงราคาจะค่อนข้างแรงอยู่แต่ก็อยู่ในเกณฑ์พอรับได้ค่ะ แต่ก็ยังมีบางจุดที่ถือว่าเป็นข้อที่ทำให้แอบผิดหวังอยู่ลึก ๆ ค่ะอาจจะเป็นเพราะว่าร้านเปิดมาไม่นานเลยยังบริหารจัดการคนได้ไม่ดี แต่ช่วงที่ พุดซ้อน ไปนั้นไม่ตรงกับช่วงพีคคือไปถึงประมาณบ่าย 2 จะบ่าย 3 แล้ว แต่การบริการของพนักงานก็ยังเข้าขั้นช้าถึงช้ามากค่ะ ต้องตามอาหารหลายครั้ง หรือเวลาที่เราจะเรียกพนักงานเหมือนกับว่าพนักงานกำลังเล่นซ่อนแอบหลบตากับเราอยู่คือดูไม่ค่อยสนใจเราเท่าไหร่มีพนักงานหลายคนที่พอเราขอหรือสั่งอะไรไปคือได้หน้านิ่งกลับมาไม่รู้ว่ารับทราบแล้วหรือยัง ตอนเรียกคิดเงินก็ต้องรอนานพอสมควรเลยทีเดียว แต่หวังว่าครั้งหน้าที่ไปทางร้านอาจจะเริ่มลงตัวแล้วและมีการบริหารจัดการที่ดีขึ้นกว่าเดิมค่ะ

 

สำหรับใครที่อยากตามลายแทงไปสามารถตามได้ที่

Facebook : กะทิบ้านอาหารไทยและขนม

ที่อยู่ ： 14 ถนน บรมราชชนนี แขวง ฉิมพลี เขต ตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร 10170

 

สรุปคะแนน

รสชาติ : 5/5

ราคา : 4/5

บรรยากาศ : 5/5

การบริการ : 3/5

 

 

 

Tags:
• กะทิบ้านอาหารไทยและขนม
• ร้านอาหาร
• รีวิวร้านอาหาร
• กะทิ
• ขนม