เกิดเป็นผู้หญิงมันไม่ง่าย แต่หญิงสาวเหล่านี้ก็ไม่ยอมแพ้ พวกเธอลุกขึ้นต่อสู้เพื่ออิสรภาพและความต้องการของตัวเอง!

 

1.Julie D’Aubigny

Julie D’Aubigny เป็นนักต่อสู้ด้วยดาบและนักร้องโอเปร่าซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วงปลายยุค 1600 - ต้นยุค 1700 Julie มักจะแต่งตัวเหมือนชายหนุ่มอายุน้อย และมักจะรู้เรียนไปพร้อมๆ กับเด็กหนุ่มทั้งหลายทั้งการเต้นรำ, อ่านหนังสือ, วาดภาพ และฟันดาบ

ในวัยเด็ก เมื่อหญิงสาวที่เธอรักถูกพ่อแม่ส่งไปยังคอนแวนต์ Julie ก็หาวิธีนำเธออกมาด้วยการขโมยศพของแม่ชีที่เสียชีวิตแล้วเพื่อนำไปวางไว้บนเตียงของคนรักและจุดไฟเผา ก่อนที่ทั้งคู่หลบหนีออกมาด้วยกัน แต่ความรักของทั้งคู่ก็จบลงเมื่อ Julie พบกับชายที่ดูหมิ่นเธอ เธอจึงท้าชายผู้นั้นให้ต่อสู้กันตัวต่อตัวและเธอก็ชนะเมื่อแทงเขาทะลุหัวไหล่ ในระหว่างที่ชายผู้นั้นรักษาตัว Julie ก็ไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาลก่อนที่พวกเขาสร้างความสัมพันธ์ที่โรแมนติกและมิตรภาพตลอดชีวิตขึ้น

Julie ก่อให้เกิดความตกใจและความโกลาหลมากมาย จนทำให้เธอถูกตัดสินให้ประหารชีวิตด้วยการเผา เธอเสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย ในวัยเพียง 30 ปีเท่านั้น

 

2.Hypatia

Hypatia เป็นนักคณิตศาสตร์, นักดาราศาสตร์ และนักปรัชญา แต่งานของเธอส่วนใหญ่หายไปตามกาลเวลา เนื่องจากความเกลียดชังที่มีต่อผู้หญิงในยุคนั้น

พ่อของ Hypatia เป็นคนมีความรู้ที่เลี้ยงดูลูกสาวด้วยการมอบความรู้(ที่ส่วนใหญ่มีไว้สำหรับผู้ชายเท่านั้น)ให้กับเธอ เธอกลายเป็นครูที่มีนักเรียนชื่นชอบมากมายและหวังว่าจะได้ทุนเรียนต่อ แต่ความฝันของเธอก็จบลงเมื่อศาสนาคริสต์รุ่งเรืองขึ้น ในปี ค.ศ. 415 ฝูงชนชาวคริสเตียนดึงเธอลงมาจากเกวียน, ลากเธอเข้าไปในโบสต์, เปลืองผ้าเธอ และทุบตีเธอจนถึงแก่ความตายด้วยกระเบื้องหลังคา หลังจากที่เธอเสียชีวิต พวกเขาก็สับร่างของเธอเป็นชิ้นๆ และเผาทิ้ง

การสังหารอย่างโหดร้ายนี้เกิดขึ้นเพียงเพราะเธอไม่ใช่คริสเตียนและเธอได้พูดถึงปรัชญาที่ไม่ใช่ของคริสเตียน รวมทั้งการที่เธอมีเพื่อนผู้ทรงอิทธิพลทำให้เธอถูกมองว่าเป็นภัยต่อศาสนา หลังจากเสียชีวิต Hypatia ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการกดขี่ทางศาสนาและการไม่ยอมรับความคิดที่แตกต่าง และทำให้เธอถูกขนานนามว่าเป็นผู้พลีชีพทางวิทยาศาสตร์

 

3.Bettie Page

Bettie Page เป็นนางแบบพินอัพในช่วงยุค 1950 เธอทำงานร่วมกับช่างภาพที่ชื่อ Irving Klaw ซึ่งเป็นผู้ถ่ายภาพที่กลายเป็นภาพอันโดดเด่นน่าจดจำของเธอ Bettie ได้ถ่ายภาพร่วมกับนิตยสารเพลย์บอยก่อนที่เธอจะหายไปจากสายตาของประชาชนและเลิกเป็นนางแบบเนื่องจากความเลื่อมใสทางศาสนาที่เธอเพิ่งค้นพบหรืออาจเป็นเพราะเธออยากกลับไปสอนหนังสือก็ตาม เธอตกอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากมากหลังจากนี้ ทั้งการแต่งงานที่วุ่นวายหลายครั้งและความทุกข์ทรมานจากความล้มเหลวของสุขภาพจิต

ในตอนปลายของยุค 1970 เธอกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับวัฒนธรรมป๊อบ ภาพวาดของเธอกลายเป็นที่นิยมและมีการวาดตัวการ์ตูนคอมมิคที่ใช้เธอเป็นต้นแบบ เธอปรากฎตัวขึ้นอีกครั้งในระยะเวลาสั้นๆ เพื่อให้สัมภาษณ์และเริ่มเก็บค่าลิขสิทธิ์จากผู้คนที่ใช้รูปถ่ายของเธอ

 

 

4.Margaret Campbell, ดัชเชสแห่งอาร์กายล์

Margaret Campbell เป็นทายาทของตระกูลที่ร่ำรวยและได้รับการเลี้ยงดูในสหรัฐอเมริกา เธอแต่งงานกับดยุคชื่อ Ian Campbell ในปี 1951 และหย่าร้างกันอย่างเลวร้ายในปี 1959 ทั้งคู่พยายามสาดโคลนใส่กัน จนกระทั่งนักสืบเอกชนถูกจ้างมาทำการสืบหาข้อมูล ต่อมาในปี 1963 ดยุคก็สามารถนำไดอารี่และรูปภาพของ Margaret ทั้ง 13 รูปมาได้ ซึ่งเป็นภาพเธอกำลังเปลือยกายและทำออรัลเซ็กส์ให้กับชายคนหนึ่ง ส่วนภาพอื่นๆ เป็นภาพผู้ชายกำลังช่วยตัวเอง

คำตัดสินจึงเอนเอียงไปทางดยุค ผู้พิพากษากล่าวว่า 'เธอเป็นผู้หญิงที่มีความต้องการทางเพศสูงที่ไม่พึงพอใจกับกิจกรรมทางเพศแบบปกติ และเริ่มที่จะหลงระเริงไปกับกิจกรรมทางเพศที่น่ารังเกียจ เพื่อทำให้ตัวเองพอใจกับความต้องการทางเพศ' แต่ตัวดยุคเองก็ไม่ได้ลอยนวลไปแต่อย่างใด เขาถูกแบล็กลิสจากสโมสรของเขา และดูเหมือนว่าชื่อเสียงของเขาก็ได้รับผลกระทบจากเรื่องอื้อฉาวนี้เช่นกัน

 

5.Mary Wollstonecraft

Mary Wollstonecraft เป็นนักเขียน, นักปรัชญา และนักสนับสนุนเพื่อสิทธิสตรีในตอนปลายของยุค 1700 ผลงานอันเป็นที่รู้จักของเธอในฐานะนักเขียนมีชื่อว่า A Vindication of the Rights of Woman ซึ่งเธอตั้งประเด็นถกเถียงเพื่อการศึกษาที่ดีขึ้นของผู้หญิง เธอกล่าวว่าผู้หญิงไม่ควรเป็นแค่ภรรยาหรือแม่เท่านั้น แต่ผู้หญิงสามารถทำงานได้หากพวกเธอได้รับโอกาสเช่นเดียวกับผู้ชาย

Mary เสียชีวิต 11 วันหลังจากให้กำเนิดลูกสาวคนที่สอง หลังเธอจากไป William Godwin สามีผู้โศกเศร้าก็ตัดสินใจเขียนชีวประวัติของเธอเพื่อเป็นเกียรติให้กับผู้หญิงที่เขารัก และหนังสือก็กลายเป็นที่ตกใจของผู้คนเมื่อมันเปิดเผยว่าเธอทุกข์ทรมานกับปัญหาทางจิตและเธอมีลูกนอกสมรส แม้ความอัปยศของเรื่องราวเหล่านี้จะทำให้เธอเสื่อมเสียมานานหลายสิบปี แต่ในขณะนั้นเธอเป็นบุคคลสำคัญในการเคลื่อนไหวของผู้หญิงและยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับเหล่าเฟมินิสต์มาจนถึงทุกวันนี้

 

6.Sophie Germain

Sophie Germain เป็นหญิงสาวชาวฝรั่งเศส ที่มีชีวิตอยู่ในปลายยุค 1700 และต้นยุค 1800 เธอเป็นผู้หญิงที่มีความหลงใหลและต่อสู้เพื่อความทะเยอทะยานของเธอ แม้ในขณะที่พ่อแม่และสังคมกีดกันเธอจากการไล่ตามฝันก็ตาม Sophie ค้นพบความรักที่มีต่อคณิตศาสตร์เมื่อเข้าไปสำรวจห้องสมุดของพ่อ เธอติดใจกับเรื่องราวของอาร์คิมีดีสและสงสัยว่าทำไมเขาจึงหลงใหลในคณิตศาสตร์ เธอจึงตัดสินใจเรียนรู้จากหนังสือคณิตศาสตร์ที่พ่อมี นอกจากนี้เธอยังเรียนรู้ภาษากรีกและลาตินจนทำให้เธอสามารถเข้าใจตัวหนังสือแบบโบราณได้ แต่พ่อแม่ของเธอกลับไม่เห็นด้วยกับความสนใจของเธอเพราะมองว่ามันเป็นสิ่งไม่เหมาะสมสำหรับเด็กสาว

แต่ Sophie ยังคงเรียนรู้ต่อไปและใช้นามแฝงว่า “M. Le Blanc” เพื่อเข้าถึงบันทึกจากการบรรยายที่ผู้หญิงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าฟัง เธอเริ่มมีความคิดที่สอดคล้องกับนักคณิตศาสตร์หลายคนเช่น Joseph-Louis Lagrange และ Carl Friedrich Gauss ผลงานวิเคราะห์ "ทฤษฎีบทสุดท้ายของแฟร์มาต์" ของเธอได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นผลงานทางคณิตศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ Sophie Germain

 

7.Sidonie-Gabrielle Colette

Sidonie-Gabrielle Colette เป็นนักเขียนนวนิยายที่มีชื่อเสียงในช่วงต้นถึงกลางศตวรรษที่ 20 การเขียนของ Sidonie มักเกี่ยวข้องกับประเด็นทางเพศและหัวข้อต้องห้ามอื่นๆ เธอมักจะเขียนเกี่ยวกับสิ่งที่เธอมีประสบการณ์มาก่อนเช่น การได้รับการเลี้ยงดูในหมู่บ้านชนบท หรือแต่งงานกับคนที่อายุมากกว่า, เจนโลกมากกว่า

Sidonie แต่งงานกับชายถึง 3 คนในชีวิต Henri Gauthier-Villars สามีคนแรกเป็นผู้คนพบทักษะการเขียนของเธอ เขาจะขังเธอไว้ในห้องเพื่อให้เธอโฟกัสกับการเขียนทำให้เธอเขียนนวนิยายได้ถึง 4 เล่มขณะแต่งงานกับเขา แต่หนังสือถูกตีพิมพ์ในชื่อของเขาและเขาก็เป็นฝ่ายเก็บเงินทั้งหมดที่ได้เอาไว้ นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่า Sidonie มีเรื่องรักๆ ใคร่ๆ กับผู้หญิงอีกด้วย Sidonie ใช้เวลาช่วงปีสุดท้ายของชีวิตในการเขียนหนังสือ และได้พบกับสามีคนที่ 3 ของเธอ

 

 

8.Luisa Casati

Luisa Casati (1881–1957) เป็นผู้หญิงที่เกิดมาพร้อมกับความมั่งคั่งอันยิ่งใหญ่ และเป็นที่รู้จักจากการจัดงานปาร์ตี้ที่หรูหราฟุ่มเฟือย, วิธีการแสดงออกของเธอ และความเกลียดชังที่มีต่อสิ่งโลกีย์ 

ก่อนหน้านี้ Luisa เป็นทายาทของตระกูลที่ร่ำรวยและใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป แต่ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปเมื่อเธอพบกับนักเขียนที่ชื่อ Gabriele D’Annunzio เธอมีความสัมพันธ์กับเขาในขณะที่เธอยังแต่งงาน และอิทธิพลของเขาก็ช่วยปลูกฝังบุคลิกที่ทำให้เธอกลายเป็นที่รู้จัก

Luisa เคยพูดว่า“ ฉันต้องการเป็นงานศิลปะมีชีวิต” และเธอก็ประสบความสำเร็จอย่างปฏิเสธไม่ได้ ภาพของเธอกลายเป็นภาพวาด, รูปปั้น และภาพถ่ายมากมาย และชื่อเสียงของเธอในโลกแฟชั่นก็ยังคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้

 

9.Tallulah Bankhead

Tallulah Bankhead เป็นดาราในต้นศตวรรษที่ 20 เธอเป็นนักแสดงละครเวที ปรากฎตัวในคลื่นวิทยุเป็นครั้งคราว และเป็นนักแสดงละครโทรทัศน์เรื่อง They Knew What They Wanted และ The Little Foxes รวมทั้งแสดงภาพยนตร์เรื่อง Lifeboat ฯลฯ Tallulah เป็นที่รู้จักจากพฤติกรรมอันฉาวโฉ่เช่นการชุดที่โชว์เนื้อหนัง และการมีความสัมพันธ์กับทั้งชายและหญิงเช่น John Emery, Eva Le Gallienne และ Napier Sturt นอกจากนี้เธอยังมีพฤติกรรมชอบใช้ยาจนเธอกล่าวว่า

"โคเคนไม่ได้ช่วยสร้างนิสัย ฉันควรรู้, ฉันใช้มันมาหลายปีแล้ว" นอกจากนี้เธอยังให้สัมภาษณ์อีกว่า "ฉันไม่ได้มีความสัมพันธ์มาเป็นเวลาหกเดือนแล้ว หกเดือน! นานเกินไปแล้ว . . . ฉันต้องการผู้ชาย"

10.Mae West

Mae West ใช้ชีวิตที่ก่อให้เกิดการโต้เถียงอย่างต่อเนื่อง เธอเป็นคนมีชีวิตชีวา มีความต้องการทางเพศที่ชัดเจนซึ่งก่อให้เกิดความตกใจและตื่นเต้นกับผู้ชมในยุค 1900 ของเธอ เธอเป็นนักเขียน, นักแสดง, ผู้กำกับ และพฤติกรรมอันแสนเร้าใจของเธอก็สร้างปัญหาให้กับเธอมากมาย

ในปี 1926 Mae เขียน, กำกับ และแสดงละครบรอดเวย์ที่ชื่อ Sex ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชมแต่ถูกเมินโดยนักวิจารณ์ การแสดงนี้ก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างเธอและตำรวจซึ่งบุกเข้ามาระหว่างโชว์ Mae และนักแสดงคนอื่นๆ ถูกจับกุมและดำเนินคดีด้วยข้อหาทางศีลธรรม ทำให้พวกเธอติดคุกนานกว่า 8 วัน เมื่อพ้นโทษ Mae ยังคงเขียนบทที่ก่อให้เกิดการโต้เถียงเช่นเดียว แต่ด้วยวิธีที่ฉลาดขึ้นและหัวหมอขึ้น ตอนนี้เธอใช้ความระมัดระวังที่จะไม่ถูกตำรวจจู่โจมอีกครั้ง

ภาพยนตร์ของ Mae มักจะถูกเซ็นเซอร์บ่อยครั้ง แต่เธอมักจะใช้การเสียดสีและใช้คำพูดเป็นนัยๆ เพื่อสร้างความสับสนให้กับกองเซ็นเซอร์เสมอ Mae West เสียชีวิตในวันที่ 22 พฤศจิกายน 1980 ด้วยวัย 87 ปี แม้สิ่งที่เธอทิ้งไว้จะก่อให้เกิดการโต้เถียง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นสิ่งที่ประสบความสำเร็จเช่นกัน

 

Cr.listverse

 

Tags:
• สิทธิสตรี
• ข้อจำกัด
• ย้อนอดีต
• หัวขบถ