Jun 10, 2019 26 view Moodymuay
กว่าจะเป็นภาพยนตร์หนึ่งเรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเหล่าดาราชื่อดังต้องทุ่มเทค้นคว้าและฝึกฝนอย่างหนักเพื่อให้รับบทได้อย่างแนบเนียนสมจริง พร้อมกับคว้าใจผู้ชมและคว้ารางวัลอันทรงเกียรติมาครอง แม้ว่าพวกเขาต้องแลกบางอย่างในชีวิตไปก็ตาม
1. Adrien Brody - The Pianist (2002)
Adrien Brody กลายเป็นนักแสดงชายอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของอคาเดมี อวอร์ดส์ เมื่อเขาคว้าออสการ์ในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมด้วยวัยเพียง 29 ปี ภาพยนตร์เรื่องนั้นก็คือ The Pianist ซึ่งกำกับโดย Roman Polanski และสร้างขึ้นจากเรื่องจริง Adrien รับบทเป็น Wladyslaw Szpilman นักเปียโนผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ฮอโลคอสต์ (การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์)
เพื่อเข้าถึงอารมณ์ในบทบาทที่ได้รับ Adrien เริ่มสร้างชีวิตให้กับตัวเองเพื่อเข้าถึงจิตวิญญาณที่เศร้าและเหงาของตัวละครตัวนี้ สิ่งที่เขาทำก็เป็นอย่างแรกคือทิ้งอพาร์ทเม้นท์และรถของเขา ซึ่งเป็นสาเหตุให้แฟนสาวในขณะนั้นทิ้งเขาไป หลังจากแยกตัวออกจากสังคมเป็นระยะเวลาหนึ่งเนื่องจากการเลิกราในครั้งนั้น Adrien ก็กลายเป็นคนซึมเศร้าในชีวิตจริง และเขาก็ยังคงหาวิธีดื่มด่ำกับบทบาทที่ได้รับด้วยการเล่นเปียโนจนมีความเชี่ยวชาญ
Adrien ไม่ใช้โทรศัพท์ในช่วงเวลาเหล่านี้ เขาติดต่อกับมนุษย์คนอื่นน้อยมากจนถึงไม่ติดต่อเลย Adrien ให้สัมภาษณ์ในภายหลังว่าเขาเลือกจะทำสิ่งเหล่านี้(อย่างมีสติ) เพื่อทำให้ตัวเองซึมเศร้าถึงขั้นสุด ซึ่งมันก็คุ้มค่ากับรางวัลที่เขาได้รับทีเดียว
2.Rooney Mara - The Girl With The Dragon Tattoo (2011)
Rooney Mara สวมบทบาท Lisbeth Salander ตัวละครที่เป็นแฮ็กเกอร์/สาวโกธิค ได้อย่างแนบเนียน สิ่งที่เธอเริ่มทำเพื่อให้สวมบทบาทได้อย่างแนบเนียนก็คือ เจาะหู 4 รู, เจาะคิ้ว และเจาะหัวนมหนึ่งข้าง (ซึ่งเธอยังเก็บเอาไว้เผื่อมีภาคต่อ) หลังจากนั้นเธอก็เรียนวิธีเล่นสเก็ตบอร์ด, ขี่มอเตอร์ไซค์, เรียนวิธีต่อยมวยแบบ kick boxing, สมัครเรียนคอมพิวเตอร์ และฝึกพูดภาษาท้องถิ่น
แต่ยังไม่จบแค่นั้น เพื่อเขาถึงจิตใจของ Lisbeth อย่างลึกซึ้ง Rooney ย้ายไปยังสตอกโฮล์ม (ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของภาพยนตร์) ในระยะเวลาสั้นๆ และอยู่ที่นั่นเพียงลำพัง ความทุ่มเททั้งหมดนี้ทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม แต่โชคร้ายที่เธอต้องไปสู้กับ Meryl Streep ในปีนั้นจนทำให้พลาดรางวัลไป
3.Meryl Streep - Sophie's Choice (1982)
ในเรื่อง Sophie's Choice นั้น Meryl Streep ต้องรับบทเป็นผู้อพยพชาวโปแลนด์ ดังนั้นการเรียนรู้เพียงภาษาเดียวยังไม่ดีพอ เธอขยายเวลาค้นคว้าของเธอออกไปอย่างบ้าคลั่งและเรียนรู้ที่จะพูดทั้งภาษาเยอรมันและโปแลนด์ แต่ยังไม่จบแค่นั้น เพราะเธอยังเรียนรู้ที่จะพูดภาษาเยอรมันด้วยสำเนียงโปแลนด์เพื่อให้เข้าถึงบทบาทได้มากที่สุด ผลลัพท์ของการฝึกฝนทำให้หลายๆ คนยกย่องว่าสำเนียงโปแลนด์ของเธอนั้นอยู่ในขั้นสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว
4. Robert De Niro - Raging Bull (1980)
Raging Bull เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงของนักมวยรุ่นเฮฟวี่เวทที่ชื่อ Jake LaMotta ทำให้ Robert ต้องทุ่มเทเวลาเพื่อศึกษาตัวละครตัวนี้ซึ่งอาจนำเขาไปคว้าออสการ์ได้ นอกจากต้องเพิ่มน้ำหนักแล้ว Robert ยังต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในทุกๆ วันเพื่อฝึกกับโค้ชมวยมืออาชีพอีกด้วย
และเพื่อให้ความสัมพันธ์กับ Joe Pesci ครูฝึกในภาพยนตร์ดูสมจริง ทั้งคู่จึงย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันจนทำให้ความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ของทั้งคู่ดูแน่นแฟ้นมาก แต่ยังไม่จบเท่านั้น เพราะ Robert ยังออกไปสังสรรค์กับ Jake และ Vikki อดีตแฟนสาวของเขาให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับบุคลิกและอดีตที่ซับซ้อนของพวกเขา
หลังจากถูกฝึกโดย Jake, Robert ก็ค้นพบว่าตัวเองเป็นนักมวยที่ค่อนข้างใช้ได้และขึ้นชกจริงๆ ในรุ่นมิดเดิลเวทบางรายการ (ซึ่งเขาชนะ 2 ใน 3 สนามด้วยกัน) Jake กล่าวในภายหลังว่า Robert เป็นหนึ่งใน 20 นักมวยรุ่นมิดเดิลเวทที่ดีที่สุดที่เขาเคยฝึกมา
5.Heath Ledger - The Dark Knight (2008)
Joker ที่รับบทโดย Heath Ledger นั้นเป็นหนึ่งในบทบาทขวัญใจหลายๆ คน และนำเขาไปสู่ Oscar ในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม Heath ทำการค้นคว้าบทนี้โดยการขังตัวเองไว้ในห้องพักของโรงแรมเป็นเดือนๆ เขาปิดตัวเองจากโลกภายนอกและใช้เวลาเพื่อเขียนไดอารี่และทดสอบเสียง ท้ายที่สุดเขาก็สรุปได้ว่าไม่มีความเป็นมนุษย์อยู่ในตัวของ Joker เลย
จากความพยายามในครั้งนี้ทำให้ Christopher Nolan ผู้กำกับปล่อยให้เขามีอิสระในการแสดงและควบคุมนิสัยของตัวละครอย่างสร้างสรรค์ ทำให้ Joker มีบุคลิกที่เรารู้จักและตกหลุมรักในวันนี้ แม้จะไม่มีการยืนยันว่าความพยายามเข้าถึงบทบาทของ Heath นำเขาไปสู่การเสียชีวิตจากการกินยาเกินขนาด แต่การใช้เวลาอยู่ในโรงแรมเป็นเดือนๆ ก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีต่อสุขภาพนัก
Cr.whatculture