ปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองในขณะนี้ถือว่าเข้าขั้นต้องระวังตัวเองกันอย่างถึงที่สุดแล้ว เพราะมันไม่เพียงส่งผลกับสุขภาพของเราในระยะสั้นแต่ยังจะมีผลต่อเนื่องในระยะยาวอีกต่างหาก ทั้งเสียงเป็นมะเร็ง เป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจและอีกมากมายนับไม่ถ้วนถ้าเรายังไม่รู้จักป้องกัน ระวังและดูแลตัวเองซะตั้งแต่วันนี้นะคะ พอบ้านเราเกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้วหลายคนอาจจะยัง งง ๆ สับสนว่าต้องทำอะไรหรือไม่ทำอะไรบ้าง วันนี้ พุดซ้อน ก็จะมาบอกทุกคนถึง 5 สิ่งที่เราไม่ควรจะทำให้ขณะที่ยังมีฝุ่นละออง pm2.5 ปกคลุมบ้านเราอยู่กันค่ะ

 

1. เดินออกบ้านสบายใจไม่ใส่หน้ากาก

 

 

หนึ่งสิ่งที่อยากให้ทุกคนหันมาใส่ใจกันแบบจริงจังเลยก็คือ การใส่หน้ากากที่สามารถกันฝุ่นละออง pm2.5 ได้ก่อนออกจากบ้านค่ะ ไม่ใช่แค่หน้ากากอนามัยธรรมดาแต่ควรจะเป็นหน้ากาก N95 หรือหน้ากาก 3M ที่จะสามารถกรองฝุ่นละอองเล็ก ๆ พวกนี้ได้ สำหรับใครที่ยังหาซื้อไม่ได้แล้วถอดใจไปแล้วก็อยากจะขอเลยว่าถึงไม่มีหน้ากากเฉพาะที่ใส่กรองฝุ่นขนาดเล็กได้แต่คุณก็ควรจะใส่หน้ากากอนามัยแบบธรรมดาเพื่อป้องกันเบื้องต้นไปก่อนและในตอนนี้ตามเวปชอปปิ้งออนไลน์มากมายก็เริ่มมีมาวางขายให้สั่งซื้อกันแล้ว เพราะฉะนั้นไม่มีข้ออ้างสำหรับการดูเเลสุขภาพของตัวเองนะคะ ใส่เอาไว้ทั้งตัวเองและอย่าลืมบอกให้คนที่คุณรักและคนรู้จักใส่กันด้วยนะคะ

 

2. ชั้นอยากจะย้ำอีกสักครั้ง จะใส่ซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้น

 

 

การใส่หน้ากากอนามัยแบบกรองฝุ่นละเอียดขนาด pm 2.5 ได้นั้นถือว่าคุณมาถูกทางแล้วค่ะ แต่ก็ต้องยอมรับว่าราคานั้นก็ค่อนข้างสูงเลยทีเดียวยิ่งตอนนี้ของขาดตลาดราคาก็ยิ่งสูงลิ่วติดเพดานขึ้นไปเรื่อย ๆ การจะซื้อมาใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งมันก็เลยกลายเป็นเรื่องยากลำบากพอสมควร แต่การใช้ซ้ำไปซ้ำมาหลายต่อหลายครั้งแม้ตัวหน้ากากจะเปลี่ยนจากสีขาว เป็นสีดำไปแล้วก็ไม่ยอมเปลี่ยนซักที แบบนี้แทนที่จะได้ป้องกัน มันจะกลายเป็นมีฝุ่นเป็นของตัวเองแล้วพกพาไปด้วยได้ทุกที่แทนนะคะ ดังนั้นหากอยากจะป้องกันตัวเองและรักษาสุขภาพไปด้วยจริง ๆ ควรจะใช้ซ้ำอย่างมากที่สุดคือ 3-4 วันค่ะ เมื่อเห็นหน้ากากเริ่มเปลี่ยนสีหรือมีกลิ่นไม่พึงประสงแล้วควรเปลี่ยนทันทีเพื่อสุขภาพที่ดีนะคะ

 

 

 

3. กลับเข้าบ้านแล้วไม่ยอมอาบน้ำ ขอหมกไว้ก่อน

 

 

ปัญหาฝุ่นควันนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกับระบบทางเดินหายใจของเราเท่านั้น แต่ยังส่งผลไปถึงผิวกายเส้นผมและเสื้อผ้าของเราอีกด้วย สำหรับคนที่มีสุขภาพแข็งแรงนั้นอาจจะไม่มีอาการใด ๆ แสดงออกมามาก แต่สำหรับคนที่มีโรคประจำตัวอย่างโรคภูมิแพ้หรือโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจนั้น มีโอกาสที่จะแสดงอาการป่วยมากกว่าคนอื่น หากเรากลับมาบ้านแล้วควรจะรีบอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายทันทีและหากใครมีผื่นขึ้นที่แขนและขาควรหาโลชั่นมาทาก่อนนอนป้องกันอาการผิวเป็นขุยได้ด้วยนะ

 

 

4. หยุดออกกำลังกาย(กลางแจ้ง)ซักนิดชีวิตจะปลอดภัย

 

 

สำหรับใครที่เป็นสายรักการกีฬา หรือชอบออกกำลังกายทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นการเดินก็ดี หรือการวิ่งก็ดี ในช่วงนี้ขอให้งดออกไปก่อน เพราะนอกจากร่างกายเราจะไม่แข็งแรงขึ้นแบบที่หวังแล้ว อาจจะมีโอกาสทำให้ร่างกายเราสุขภาพแย่ลงอีกด้วยนะคะ เพราะเวลาที่เราหายใจเข้าออกตอนที่รู้สึกเหนื่อยจากการออกกำลังกายเนี่ยมันจะสูดเอาเจ้าฝุ่นละออง pm2.5 เข้าไปด้วย งานนี้ปอดโดนแย่งที่แน่นอน หากเสพติดการออกกำลังกายแบบหยุดไม่ได้จริง ๆ ควรจะเปลี่ยนมาเป็นออกกำลังกายในร่ม หรือออกกำลังกายในบ้านแทนค่ะ มีให้เลือกหลากหลายไม่ว่าจะเป็น แอโรบิค กระโดดเชือก โยคะ คาดิโอ และอีกมากมาย หรือสำหรับสายเปย์อาจจะหันมาใช้บริจาคฟิตเนสก็ได้นะ

5. เปิดหน้าต่างรับอากาศที่(คิดว่า)บริสุทธิ์

 

 

สำหรับใครที่ต้องการอากาศบริสุทธิ์ในช่วงนี้ แล้วคิดว่าการเปิดหน้าต่างคือทางออก ขอบอกเลยว่าคิดผิดค่ะ! ในช่วงนี้นั้้นควรปิดหน้าต่างหรือประตูต่าง ๆ ให้มิดชิดเพราะฝุ่นนั้นล่องลอยในอวกาศ เอ๊ย! ลอยอยู่ในอากาศ การที่เราเปิดหน้าต่างให้ฝุ่นเข้ามารัว ๆ มันก็จะไม่ต่างอะไรกับการนั่งตากลมอยู่นอกบ้านเลยนะคะ ในช่วงนี้ให้มั่นทำความสะอาดภายในบ้าน และอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้สะอาดอยู่เสมอ พักจากการเปิดประตูหน้าต่างรับลมไปก่อน สุขภาพปอดเราจะได้ปลอดภัยไม่ได้รับผลกระทบมากไปกว่าเดิมนะจ๊ะ