แม้จะพักผ่อนเต็มที่ เข้านอนตรงเวลา แต่ทำไมเวลาตื่นนานมากลับไม่รู้สึกสดชื่น แถมยังรู้สึกไม่กระปรี๊กระเปร่า เหนื่อยล้าเหมือนผ่านสนามรบมาอย่างงั้น มาดู 5 อย่าง ที่เราไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันทำให้เรารู้สึกเหนื่อยล้ากันค่ะ

 

1.ห้องรก โต๊ะทำงานเละ

 

 

ลองมองไปรอบๆ ห้อง มองโต๊ะทำงาน ถ้ามันรกก็แสดงว่าทฤษฏีนี้ค่อนข้างจริง เพราะการมีโต๊ะรกๆ ทำให้สมองเราไม่รู้จะโฟกัสกับอะไรก่อนดี จับต้นชนปลายไม่ถูก หรือกว่าจะได้ก็ช้า รู้อย่างนี้จัดโต๊ะให้เรียบร้อย และวางแผนการทำงานหน่อยดีกว่า จะได้มีสมาธิมากขึ้น

 

 

2.ปล่อยให้หิว ทานไม่ตรงเวลา

 

 

บ่อยครั้งทำอะไรเพลินๆ หรือติดธุระจนไม่ได้ทานข้าว ปล่อยให้ท้องร้อง ทำให้เราโหยมากขึ้นเป็นพิเศษ ทำอะไรก็รู้สึกเหนื่อยมากขึ้น เพราะร่างกายต้องใช้พลังงานแต่กลับไม่มีอาหารไปเพิ่มพลังให้ แถมยังทำให้รู้สึกหงุดหงิดด้วย ทั้งนี้ควรทานอาหารให้ตรงเวลาสม่ำเสมอทุกวัน เพื่อรักษาระดับพลังงาน ทำให้รู้สึกเหนื่อยน้อยลง หรือหากติดขัดไม่สามารถทานข้าวได้ ก็ควรหาอะไรรองท้องเพื่อไม่ให้ร่างกายโหยจนเกินไปค่ะ

 

3.ไม่ออกกำลังกาย

 

 

เชื่อว่าสาวๆ หลายคน จะไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกายเท่าไรนัก เพราะทำงาน กลับบ้านมาก็เหนื่อยพอแล้ว แต่เชื่อมั้ยว่า การออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยเพิ่มพลังงานให้เราได้ ทำให้ร่างกายตื่นตัว กระปรี๊กระเปร่าขึ้น โดยมีการวิจัยพบว่า การออกกำลังกายหนักพอสมควรประมาณ 20 นาที ก็ช่วยเพิ่มพลังงานให้เราได้มากกว่าการนั่งพักเฉยๆ ไม่แปลกเลยถ้าไม่ออกกำลังกายแล้วจะรู้สึกเซงๆ เนือยๆ เพราะร่างกายไม่ได้รับการกระตุ้นนั่นเอง

 

 

4.รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอ

 

 

การขาดธาตุเหล็ก เป็นสาเหตุทำให้รู้สึกเฉื่อยชา หงุดหงิด อ่อนแอ และไม่มีสมาธิ ทั้งนี้เพราะธาตุเหล็กสำคัญต่อการนำออกซิเจนไปยังกล้ามเนื้อและเซลล์ จึงควรเพิ่มการทานอาหารเช่น ผักใบเขียว ไข่ เต้าหู้ ตับ เนื้อวัวและถั่ว คู่กับอาหารที่มีวิตามินสูงเพื่อช่วยให้การดูดซึมธาตุเหล็ก

 

5.นอนมากเกินไป

 

 

การนอนหลับแบบคุณภาพ ไม่จำเป็นต้องเน้นปริมาณ บ่อยครั้งที่การนอนนานเกินไป ตื่นมาก็ไม่ได้รู้สึกสดชื่น ไม่ได้รู้สึกว่านอนเต็มอิ่มแต่กลับรู้สึกอ่อนเพลีย เชื่องช้า ร่างกายไม่พร้อมทำงาน ดังนั้น ควรหากิจกรรมทำเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัว ถ้าต้องการนอนกลางวัน ก็ไม่ควรใช้เวลานานเกิน 2 ชั่วโมง ประมาณ 15 นาทีก็กำลังดีค่ะ

 

 

 

 

Tags:
• เหนื่อยล้า
• ทำงาน