Jan 18, 2019 4288 view QueenA
หลังจากเห็นภาพนักแสดงหลักจาก Dark Universe ซึ่งที่จริงข่าวก็มีมานานแล้วแหละ แต่ทั้งนี้บังเอิญไปเห็นภาพข่าวอีกครั้ง ก็เลยอยากมาบอกเล่าความประทับใจตัวละครตัวหนึ่ง นั่นคือ Dr.Jekyll & Mr.Hyde ดร.แจ็คเกิล กับ มิสเตอร์ไฮด์ ซึ่งเราก็เคยพบกับเขาแล้วในภาพยนตร์เรื่อง The Mummy (2018) แสดงโดย รัสเซล โครว์
ท้าวความถึง The Mummy (2017) สักนิด เป็นฉากที่พระเอก นิค มอร์ตัน (ทอม ครูซ) เข้าพบ ดร.แจ็คเกิล และเขาเกิดคลุ้มคลั่งกลายเป็นมิสเตอร์ไฮด์
ซึ่งหลังจากผู้เขียนดูฉากนี้จบแล้ว รู้สึกสนใจในตัวละครตัวนี้มากขึ้น จึงได้ลองหาข้อมูลก็พบว่า ตัวละคร ดร.แจ็คเกิลกับมิสเตอร์ไฮด์ เคยปรากฏตัวมาแล้วในหนังเรื่องอื่น อย่างเรื่อง The League of Extraordinary Gentlemen (2003) และ มีหนังเดี่ยวของตัวเอง เป็นหนังยุคขาวดำในปี 1932 และ 1941
เดิมทีเรื่องราวของดร.แจ็คเกิลและมิสเตอร์ไฮด์คือนิยาย เขียนโดย Robert Louis Stevenson ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ครั้งแรกปี 1932 ซึ่งผู้เขียนจะขอเล่าแบบย่อๆ คร่าวๆ จากต้นฉบับ ดังนี้
เรื่องของ คุณหมอและนักวิทยาศาสตร์ “ดร.แจ็คเกิล” หนุ่มรูปงามผู้มีความเมตตา เป็นที่รักของทุกคน รวมถึงคนไข้ที่เขาดูแลรักษา แต่เขามีแนวคิดที่ว่า แต่ละคนมี 2 บุคลิก มีทั้งด้านดีและด้านร้าย อยู่ในตัวเอง หากสามารถแยกด้านดีออกจากด้านชั่วร้ายได้ ก็จะทำให้เหลือร่างดีเพียงร่างเดียว คนเราจะได้ไม่ต้องทำเลวอีกต่อไป
ด้วยความที่เขาเป็นทั้งหมอและนักวิทยาศาสตร์ เขาได้คิดสูตรน้ำยาแยกบุคลิกและทำการทดลองกับตัวเอง เพื่อแยกตัวตน 2 บุคคลิกออกมา ซึ่งเขาได้ปลดปล่อยบุคลิกชั่วร้ายออกมาได้สำเร็จ จากหนุ่มรูปงาม จิตสำนึกผู้แสนดีจะหายไป กลายเป็นหนุ่มอัปลักษณ์ น่ากลัว ก้าวร้าว นิสัยเปลี่ยนและพร้อมจะทำเรื่องเลวร้ายได้ตลอดเวลา ซึ่งเขาก็สนุกไปกับการทำชั่ว โดยเขาตั้งชื่อให้ร่างนี้ว่า “มิสเตอร์ไฮด์” และจะคืนร่างเดิมก็ต่อเมื่อดื่มยาที่เขาสร้างขึ้น ดร.แจ็คเกิลใช้ชีวิตอยู่ในร่างมิสเตอร์ไฮด์มานาน ไม่รู้ว่าเขาติดใจหรืออย่างไรจนในที่สุดจิตสำนึกชั่วของมิสเตอร์ไฮด์ก็เอาชนะจิตสำนึกที่ดี ทำให้ดร.แจ็คเกิลไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขากลายเป็นมิสเตอร์ไฮด์โดยไม่ต้องพึ่งยาอีกต่อไป เขาไม่สามารถกลับคืนร่างเป็นดร.แจ็คเกิลได้หากไม่มียารักษา ซึ่งตอนจบของนิยายจะเป็นอย่างไรต่อไป อันนี้ผู้เขียนขอไม่สปอยนะคะ
และนี่ก็เป็นที่มาคร่าวๆ ของดร.แจ็คเกิลกับมิสเตอร์ไฮด์ ซึ่งผู้เขียนรู้สึกประทับใจในแนวคิดที่ แยกบุคลิกส่วนดีส่วนเลวออกมา เพื่อป้องกันไม่ให้เราทำเรื่องแย่ๆ ซึ่งที่มาของชื่อ ก็มาจากคำว่า Hide ที่แปลว่าหลบซ่อน ในที่นี้มันอาจหมายถึง บุคลลิกชั่วร้ายและความต้องการที่ถูกเก็บกด ถูกซ่อนไว้
ส่วนในหนังเรื่อง The League of Extraordinary Gentlemen (2003) เวลาดร.แจ็คเกิลกลายร่างเป็นมิสเตอร์ไฮด์ ร่างกายก็จะเปลี่ยนไป จากคนธรรมดา ก็จะตัวโตขึ้น มีพละกำลังมากขึ้น นิสัยเปลี่ยน ทำให้รู้สึกหมือน The Hulk ซึ่งตอนดูเรื่องนี้ ผู้เขียนก็ยังเด็กอยู่ และยังไม่รู้ที่มาของตัวละคร เลยไม่รู้สึกประทับใจในเวอร์ชั่นนี้เท่าไร ตามนิยายนั้น ตัวละครนี้คือการแยกส่วนดี และส่วนที่เลวออกมาอย่างชัดเจน ไม่จำเป็นต้องกลายร่างเป็ยยักษ์ก็ทำชั่วได้ แต่พอได้ทราบที่มาขอตัวละครดังที่ผู้เขียนกล่าวไว้ด้านบน ยิ่งทำให้รู้สึกประทับใจมากขึ้น
ซึ่งส่วนที่ทำให้รู้สึกประทับใจในตัวละครนี้ ก็เพราะ มีการใช้ความหล่อความงาม แทนความหมายของ "ความดี" และใช้ความอัปลักษณ์มาแทนความหมายของ "ความชั่ว" ซึ่งไม่ว่าร่างนั้นจะเคยรูปงามเพียงใด แต่เมื่อเขาเป็นคนไม่ดี เขาก็จะกลายเป็นคนน่าเกลียดไปในทันที
ตอนนี้ผู้เขียนก็รอหนังภาคแยกของ ดร.แจ็คเกิลและมิสเตอร์ไฮด์ อยากรู้ว่าจะทำออกมาตามต้นฉบับเดิมหรือไม่ หรือมีการตีความใหม่ออกมา แต่จากที่เห็นในภาพยนตร์เวอร์ชั่น Mummy จะเห็นได้ว่า มิสเตอร์ไฮด์ มีพละกำลังมากขึ้น มีนิสัยก้าวร้าว และมีใบหน้าที่ดุร้าย ไม่เหมือนต้นฉบับที่กลายร่างเป็นอีกคนหนึ่ง ที่มีหน้าตาอัปลักษณ์น่ากลัวจนไม่เหลือเค้าเดิมของร่างดีเลย
ทั้งนี้ผู้เขียนเชื่อในฝีมือการแสดงของ รัสเซล โครว์ และจะรอดูหนัง ไม่ว่ากระแสวิพากษ์วิจารณ์จะออกไปในทางลบก็ตาม
ขอบคุณ แหล่งอ้างอิง
-
Tags:
- Dark Universe
- The Mummy