หนังย้อนเวลาที่ให้แง่คิดดี และมีเอฟเฟกต์ CG ที่น่าสนใจใช้ได้ ทั้งในเรื่องของความแปลก และมีเนื้อหาที่สนุกชวนติดตาม เป็นหนังที่ติดอยู่ในความทรงจำของควีนเอ ทำให้หนังที่ดูในวัยเด็กวันนั้น ต้องกลับมาหาดูซ้ำในวันนี้

 

เรื่องย่อ

ในปี 1895 ที่ผู้คนยังเดินทางด้วยรถม้ากันอยู่ “อเล็กซานเดอร์ ฮาร์ดิแกน” (กาย เพียร์ซ) ผู้เป็นทั้งครูวิทยาศาสตร์ และนักประดิษฐ์ ที่ค่อนข้างเชื่อในวิทยาศาสตร์ เชื่อในความก้าวหน้า ไม่ยึดติดระเบียบกฏเกณฑ์ของสังคม โดยเขาจะไม่ยอมใส่หมวกทรงสูงเหมือนชายหนุ่มทั่วไปในยุคนั้น

นอกจากวิทยาศาสตร์และการพัฒนาแล้ว เขาก็มีความรักกับหญิงสาวผมบลอนด์สวย “เอ็มม่า” เขาตัดสินใจขอเธอแต่งงาน แต่โชคร้าย หลังจากเธอตอบตกลงได้ไม่นาน ก็มีโจรมาจี้ชิงทรัพย์ รวมถึงแหวนที่เพิ่งสวมให้ว่าที่เจ้าสาว แต่เอ็มม่าเธอขัดขืนไม่ยอมให้แหวนจึงมีการยื้อแย่งกัน จนปืนลั่น เอ็มม่าสิ้นใจภายใต้อ้อมกอดของอเล็กซ์

อเล็กซ์หมกตัวอยู่ในห้องทำงาน เป็นเวลา 4 ปี ท่ามกลางความเป็นห่วงของเพื่อนสนิทและแม่บ้านที่ดูแลเขา เขาได้คิดค้นเครื่องย้อนเวลา และได้ลองย้อนเวลากลับไปได้สำเร็จ แต่กลับกลายเป็นว่า แม้ว่าเขาจะเปลี่ยนเหตุการณ์ไม่ให้เอ็มม่าถูกยิงในคืนนั้น เอ็มม่ากลับต้องประสบอุบัติเหตุตายอยู่ดี เขาซึ่งเข้าใจในสิ่งที่วิทยาศาสตร์อธิบายได้มาตลอด กลับไม่เข้าใจว่าทำไมเขาจึงเปลี่ยนมันไม่ได้

เขาจึงเลือกที่จะเดินทางไปหาคำตอบในอนาคตข้างหน้า แต่ก็เกิดอุบัติเหตุทำให้เขาสลบไป และเครื่องย้อนเวลานั้นทำงานต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งล่วงเลยไปถึง 800,000 ปี เมื่อตื่นมาก็ต้องพบว่าโลกเปลี่ยนไปอย่างไร และเขาจะได้เรียนรู้อะไรจากตรงนี้บ้าง

 

 

 

รีวิว

แม้เราจะไม่เข้าใจบางอย่างในหนังก็ตาม แต่ความบันเทิงมันก็ทำให้เราสนุกกับมันได้โดยไม่คิดมาก อีกทั้งงานภาพยังดีงาม และแง่คิดที่ได้นั้นก็มีค่าเหลือเกิน

 

ภาพรวมของหนังนั้น นับว่าเป็นหนังแห่งจินตนาการโดยแท้ เพราะไม่มีใครรู้ว่าอีก 800,000 ปี ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ผู้สร้างจึงมองล้ำไปในอนาคต เพราะโดยปกติมุกของหนังย้อนเวลานั้น มักจะมีประเด็นไม่กี่อย่าง คือการแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด แต่หนังเรื่องนี้มีความแตกต่างคือมีพล็อตที่พระเอกหลงไปอยู่ยุคอนาคต แต่การดำเนินเรื่องค่อนข้างอืดไปหน่อยนะ แต่ก็เข้าใจว่ามันคือการปูเนื้อเรื่องให้พระเอกของเรา

 

 

ความสนุกบันเทิงนั้น มีครบรสในหนังเรื่องนี้แน่นอน ไม่ว่าจะฉากรัก ฉากเศร้า ฉากที่ตื่นเต้น และฉากแอ็คชั่น ทุกอย่างมันผสมผสานอยู่ในหนังเกี่ยวกับเวลาเรื่องนี้ได้อย่างลงตัวนะ และเราชอบฉากแอ็คชั่นในตอนท้ายๆ  มาก อาจมีบางประเด็นที่ไม่ค่อยกระจ่าง ทำให้แอบงงเป็นบางตอน อย่างที่มาของตัวร้ายในเรื่อง เราจะงงๆ ว่าทำไมจึงเกิดตัวละครนี้ขึ้น แต่สุดท้ายแล้ว เราก็ลุ้นและเอาใจช่วยตัวละครไปจนหนังจบจนได้

 

 

 

ในส่วนของเพลงประกอบนั้น เรียกได้ว่าเลือกใช้ได้ตรงกับอารมณ์ คือให้ความรู้สึกถึงการผจญภัย ให้อารมณ์เหมือนฟังเพลงจากเผ่าอะไรสักอย่างอยู่ ส่วนงานภาพนั้น เป็นสิ่งที่เราชอบมากๆ คือฉากตอนใช้เครื่อง Time Machine ชณะย้อนกลับไปอดีต หรือไปอนาคต จะเป็นภาพการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ แบบ Time lapse ทั้งมีการเปลี่ยนผ่านของฤดูกาล และหากไปอนาคตสิ่งของที่เคยอยู่ในอดีตถูกพัฒนาให้เห็นอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้พระเอกที่ใช้งานเครื่อง Time Machine อยู่นั้น จะไม่มีสภาพเปลี่ยนไป จะไม่แก่หรือเด็กลง แต่เขาจะได้เฝ้ามองทุกอย่างที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามกาลเวลาที่มากขึ้น

 

ซึ่งดูสร้างสรรค์ดี ในแบบฉบับหนังจากปี 2002 ที่ CG ก็พัฒนามาแล้วระดับหนึ่ง มีหลายฉากสื่ออารมณ์ เช่นตอนพระเอกทำรูปของคนรักตกพื้นขณะใช้เครื่อง Time machine ทำให้เราเห็นว่าภาพนั้นมีลักษณะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา คือเก่าจนหลุดลอกไป ขณะที่พระเอกก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่สามารถหยุดเวลาไปหยิบภาพของคนรัก จึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย หรือจะเป็นฉากตอนท้ายเรื่องที่เพื่อนพระเอกถอดหมวกแล้วเดินต่อไป นั่นเพราะพระเอกเคยบอกไว้ว่าไม่ชอบสวมหมวก มันก็แอบสะกิดใจเราเล็กๆ เหมือนกัน 

 

เรารู้สึกชอบปมของตัวละครอย่าง อเล็กซานเดอร์มากๆ เพราะเปิดเรื่องมา เขาคือคนที่มองไปข้างหน้า ไม่ยึดติดกับขนบธรรมเนียม ชอบวิทยาศาสตร์และการพัฒนา แต่เมื่อสูญเสียคนรัก เขากลับกลายเป็นคนยึดติดกับอดีต และหมกมุ่นจนไม่สามารถก้าวต่อไปได้ กลับต้องการสร้างเครื่องย้อนเวลาไปยื้อชีวิตคนรักกลับมา  ผิดจากนิสัยเดิมที่เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้มองการณ์ไกล

 

 

ในเรื่องของแง่คิดนั้น เราลองคิดเล่นๆ ว่าถ้าเรามีเครื่องย้อนเวลาอยู่จริง เราคงคิดย้อนไปแก้ไขเหตุการณ์ในอดีตมากกว่าไปดูอนาคต และหนังเรื่องนี้ตัวละครได้ก้าวไปสู่อนาคตแบบบังเอิญ ทำให้เราฉุกคิดถึงการมองไปข้างหน้า แทนที่การย้อนกลับไปแก้ไขอดีต เราไม่สามารถควบคุมทุกอย่างไว้ในมือเราได้เสมอไป คงดีกว่าที่เราอยู่เลือกจะอยู่กับปัจจุบัน ทำมันให้ดี เพื่อสร้างอนาคตในวันข้างหน้า

  

สรุปคะแนน 8/10 ให้กับความสนุกบันเทิงและแง่คิดดีๆ มีปมตัวละครที่โดดเด่น เนื้อเรื่องไม่ซับซ้อน แต่หักคะแนนบางประเด็นที่ไม่เคลียร์

 

 

Tags:
• แนะนำหนัง
• รีวิวหนัง
• กระสวยแซงเวลา
• The Time Machine