Aug 5, 2019 6768 view QueenA
อดใจรออีกนิดก็จะได้ดู Top Gun : Malverick ภาค 2 ที่ห่างจากภาคแรกกว่า 32-33 ปี และเราก็ไม่พลาดจะหาดูภาคแรกเพื่อนำมาเล่าและรีวิวให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน แต่ถ้าเพื่อความอินในภาคต่อ ขอแนะนำให้หาดูหนังภาคแรกไปเลยก็ดีนะ
เรื่องย่อ
เรื่องราวของ “มัลเวอริค” รหัสเรียกชื่อของลูกชายอดีตนักบินที่เก่งที่สุดคนหนึ่ง ด้วยความมั่นใจในตัวเอง บวกกับความใจกล้าบ้าบิ่นทำให้เขาถูกส่งมาฝึกที่หน่วย Top Gun แต่ก็ไม่วายที่จะแหกกฏเป็นประจำ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ทำให้เขาต้องเรียนรู้และก้าวเข้าสู่บทเรียนสำคัญในการใช้ชีวิตและการฝึกบิน
สรุปเนื้อเรื่องค่อนข้างละเอียด (สปอยเนื้อหาสำคัญ)
บอกไว้เลยว่าถ้าไม่อยากรู้สปอย ให้ข้ามตัวหนังสือสีเทาไปอ่านรีวิวด้านล่างได้เลยค่ะ
++++++
++++
++
+
เปิดเรื่องมาด้วยเครื่องบินมิคของข้าศึกไม่ระบุสัญชาติโผล่มาในเรดาห์ จึงต้องส่งเครื่องบินที่ลาดตระเวนอยู่ขณะนั้น 2 ลำ ไปขับไล่ ซึ่งได้แก่ เครื่องบินของ “มัลเวอริค” (ทอม ครูซ) และ “กูส” และอีกลำคือ คูก้าและคู่บินของเขา
เมื่อไล่ต้อนกันได้สักพัก เครื่องบินของคูก้า ถูกเครื่องบินข้าศึกล็อคเป้ายิงไว้ แต่ข้าศึกยังไม่ยิง มัลเวอริคบินแบบผาดโผนเพื่อเข้าใกล้เครื่องบินมิคของข้าศึก โดยบินแบบกลับหัว ไปอยู่ด้านบนของข้าศึก และใช้กล้องถ่ายภาพไว้ ทำให้ข้าศึกรีบหนีไป
คูก้า เกิดอาการกลัวตายอย่างสุดชีวิต เพราะรู้ตัวว่าถูกล็อคเป้าไว้ เขาจึงไม่สามารถประคองสติให้ลงจอดได้ มัลเวอริคถูกสั่งให้กลับฐาน แต่เขากลับฝ่าฝืนคำสั่งเพื่อไปช่วยคูก้า โดยพูดให้สติและบินเป็นเพื่อนจนถึงฐานในที่สุด หลังจบเหตุการณ์นั้น คูก้าลาออก ผู้บังคับบัญชาจึงจำใจส่งเขาและกูส ไปฝึกบินที่ Top Gun ซึ่งที่นั่น รวมหัวกะทิที่บินเก่งที่สุด เพื่อมาฝึกให้เก่งยิ่งกว่า โดยในตอนแรกผู้บังคับบัญชาตั้งใจจะส่งคูก้าไป แต่คูก้าลาออกไปก่อน ตำแหน่งนักบินที่บินเก่งที่สุดในหน่วยนั้นจึงตกเป็นของมัลเวอริค โดยประวัติของมัลเวอริคจะไม่ค่อยดีเท่าไร เพราะก่อเรื่องไว้เยอะ
ตอนปฐมนิเทศ ก็พบกับผอ.ของที่นั้น “ไวเปอร์” ที่ขึ้นชื่อว่าสุดยอดนักบินในตำนาน มัลเวอริคตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องมีชื่ออยู่ในบอร์ดนักบินที่บินเก่งที่สุดในรุ่น ทำให้เพื่อนร่วมรุ่นหลายคนเกิดอาการหมันไส้ รวมไปถึง “ไอซ์แมน” (วัล คิลเมอร์) ที่เป็นระดับหัวกะทิเหมือนกัน หลังจบจากการปฐมนิเทศ เขาตรงไปยังบาร์ และไปร้องเพลงจีบสาวชื่อ “ชาร์ลี” (เคลลี แมคกิลลิส) เช้าวันต่อมาเมื่อเริ่มเข้าชั้นเรียน ก็ต้องตะลึงเพราะชาร์ลีคือหนึ่งในครูฝึกของเขา
เมื่อเริ่มสู่บทเรียนฝึกบิน มัลเวอริคก็สร้างวีรกรรมอีกเช่นเคย แม้ว่าเขาจะเอาชนะครูฝึกได้ แต่เขาก็แหกกฏการบิน ซึ่งโดยไวเปอร์เรียกว่าอบรมอยู่พักใหญ่ และเมื่ออยู่ในคลาสเรียนของชาร์ลี มีการพูดถึงเครื่องบินมิค มัลเวอริคเล่าว่าเขาเคยขับไล่เครื่องบินมิคมาแล้ว โดยการบินกลับหัว แต่ก็ไม่มีใครเชื่อ และยังโดนไอซ์แมน คู่แข่งคนสำคัญแดกดัน และในคลาสต่อๆ มา ชาร์ลี ที่เขามุ่งหน้าจีบ แบบไปมาหาสู่กันถึงบ้าน ก็หักหน้าเขาต่อหน้าชั้นเรียน ทำให้เขาโกรธเธอมากจนขับมอเตอร์ไซค์หนีไป ชาร์ลีขับรถยนต์ตามมา ปรับความเข้าใจกันในที่สุด ระหว่างนั้นมัลเวอริค ชาร์ลี กูส และครอบครัวได้ทานข้าวร่วมกัน มัลเวอริครักกูสมาก เปรียบเหมือนเพื่อนตายที่ร่วมหัวจมท้ายมาด้วยกันตลอด เขาพูดกับกูสเสมอว่ากูสคือครอบครัวที่เขาเหลืออยู่
ต่อมาเมื่อถึงชั่วโมงฝึกบิน เครื่องบินของมัลเวอริคมีปัญหา ทำให้ต้องดีดตัวออก แต่หัวของกูสเกิดการกระแทกระหว่างดีดตัว ทำให้คอหัก เสียชีวิตทันที เหตุการณ์นี้ทำให้มัลเวอริคเสียศูนย์มาก เขาโทษตัวเองเพราะนิสัยห่ามๆ ชอบความท้าทายและบ้าบิ่นของเขา แม้การสอบสวนออกมาว่าปัญหาอยู่ที่ตัวเครื่องบิน ไม่ใช่มาจากความประมาทของมัลเวอริค ก็ไม่ทำให้เขาหายโกรธตัวเอง เขาจึงยื่นใบลาออก ส่วนชาร์ลี ก็โดนมัลเวอริคฟาดงวงฟาดงาใส่ จนต้องทำเรื่องย้ายงานหนีไป แต่เหตุการณ์นี้ทำให้ไอซ์แมนกับมัลเวอริคเลิกอีโก้ใส่กัน เพราะไอซ์แมนรับรู้ถึงความสูญเสียนี้ได้
ไวเปอร์ไปเตือนสติมัลเวอริคโดยเล่าเรื่องพ่อของเขาให้ฟัง มัลเวอริครู้เพียงว่า พ่อขับ F4 ไปรบในสงครามเวียดนามแล้วไม่กลับมาอีก ไวเปอร์เล่าว่าพ่อของเขาเสียสละตัวเอง ช่วยชีวิตเพื่อนๆ ไว้อีก 3 ลำ ซึ่งข้อมูลนี้เป็นข้อมูลลับที่ทางการปกปิดไม่ให้ครอบครัวของมัลเวอริครู้ มัลเวอริคจึงตัดสินใจฝึกให้จบหลักสูตร และตำแหน่งนักบินที่สุดยอดที่สุดในรุ่นก็ได้แก่ ไอซ์แมน มัลเวอริคร่วมยินดีกับเขา แต่ก็ฉลองได้ไม่นาน ก็ต้องออกไปทำภารกิจพิเศษ โดยขับไล่เครื่องบินมิคของข้าศึก
ไอซ์แมน และเครื่องบินอีกลำถูกข้าศึกไล่ต้นจนตกไปหนึ่งลำ มัลเวอริคบินขึ้นไปช่วยไอซ์แมนและยิงข้าศึกร่วงไปได้หลายลำ หลังจากจบเหตุการณ์นี้ เขาบินจอดที่ฐานประดุจฮีโร่ ผู้คนร่วมแสดงความยินดีกับเขา และเขาก็ได้รับข้อเสนอพิเศษให้เลือกว่าจะไปปฏิบัติงานที่ไหน มัลเวอริคขอเลือกเป็นครูฝึกที่ Top Gun จากนั้นชาร์ลีก็กลับมาหาเขา และจบบริบูณร์ด้วยดี
รีวิว
เนื้อเรื่องไม่ซับซ้อน สนุกในแบบฉบับหนังสมัยก่อน มีจุดเด่นตรงฉากไล่ล่าของเครื่องบินที่ยุคนั้นถือว่าทำออกมาได้ดี ประกอบกับเพลงและฉากคลาสสิคที่สร้างตำนานให้หลายคนจดจำ
บอกตรงๆ ว่าคาดหวังกับหนังเรื่องนี้ไว้เยอะมาก เพราะได้ยินกิตติศัพท์มานาน ดูใครๆ ต่างชื่นชอบ Top Gun มากๆ อาจด้วยสมัยนั้นกระแสหนังแรงมาก ทั้งฉากขี่มอเตอร์ไซค์ สวมแว่น สวมแจ็คเก็ต นางเอกซ้อนท้าย เพลงประกอบที่เพราะฟังแล้วเท่ เร้าใจ จึงทำให้เราคาดหวังกับหนังเรื่องนี้สูง ถ้าเทียบกับเนื้อหาของหนังสมัยใหม่ เรื่องนี้จะไม่ค่อยว้าวเท่าไร แต่สำหรับคนที่ดูในปี 1986 เรื่องนี้คือสุดยอดหนังแอ๊คชั่นเรื่องหนึ่งเลย
การดำเนินเรื่องของเรื่องนี้ ไม่ซับซ้อนเลย ไม่มีงงแน่นอนเพราะเล่าเป็นลำดับ 1-2-3 บางจังหวะของหนังแอบรู้สึกเงียบ ทำให้รู้สึกเบื่อเบาๆ แถมบทก็มีข้อผิดพลาดเล็กน้อยตรงที่ ฉากหนึ่งบอกกับเราแบบนี้ แต่ฉากต่อมากลับกลายเป็นอีกแบบหนึ่ง
และที่ต้องชมเลยคือการดีไซน์ฉาก โทนสี แสงเงาต่างๆ คือเป็นหนังที่ภาพสวยใช้ได้ ยิ่งฉากเลิฟซีนนี่แอบแซ่บอยู่เหมือนกัน แม้เห็นเป็นเงาเท่านั้น แต่คือจูบจริ้งไรจริ้งจ้า
ด้านฉากไล่ล่าบนฟ้านั้น ก็บอกตรงๆ ว่าแอบแยกไม่ออก สารภาพเลย แต่ถามว่าสนุกมั้ย มันเป็นฉากที่สนุกและมันอยู่พอสมควรนะ ถือว่าทำออกมาชวนตื่นเต้นดี แต่บางทีเราแยกไม่ออกจริงๆ อ่า หรือถ้าลองตั้งใจดูแบบจริงๆ อาจจะแยกออกก็ได้
ในเรื่องของเครื่องบินรบนั้น ผู้สร้างมีการดัดแปลงเอาเครื่องบินรุ่น F-5 มาสมมุติเป็นเครื่องบิน Mig-28 คิดว่าคงด้วยปัจจัยหลายอย่างทำให้หนังต้องใช้เครื่องบิน F-5 แทน แต่ทั้งนี้ก็ไม่ทำให้ความสนุกลดลงนะ กลับทำให้เราสนใจเรื่องเครื่องบินรบมากขึ้นเลยแหละ
และการเลือกทอม ครูซมารับบทนี้คือคิดไม่ผิดเลย หล่อ และเท่สุดๆ คอสตูมปังมาก ในชุดแจ็คเก็ต สวมแว่นตาดำ ขี่มอร์เตอร์ไซค์ ดูแล้วใครเห็นก็ต้องชื่นชอบในความเท่ของทอม ครูซจริงๆ
มาพูดถึงแง่คิดที่ได้กัน เอาตรงๆ มันคือหนังเพื่อความบันเทิงโดยแท้ แต่ภายใต้ความเท่ก็ยังมีแง่คิดดีๆ แฝงอยู่ คิดการแข่งขันอยากเป็นที่ 1 ของพระเอกจนทำให้เกิดเรื่องไม่ดีตามมา และตามชื่อไทยก็คือ "ฟ้าเหนือฟ้า" ซึ่งมันอาจจะบังเอิญก็ได้นะ เพราะเรารู้สึกว่า การรวมตัวกันของนักบินที่เก่งที่สุด มันก็หมายถึงว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า หรือที่แปลตรงๆ คือ คนเก่ง ก็ยังมีคนที่เก่งกว่า และพระเอกก็มุ่งมั่นที่จะเป็นคนที่เก่งกว่าทุกคนให้ได้ และท้ายที่สุด คนที่ได้โล่ Top Gun ไปครองก็ไม่ใช่พระเอก แต่เขาก็ดูแฮปปี้และดีใจกับคนที่ได้ ซึ่งมันก็ถือว่าพระเอกของเราได้เรียนรู้แล้วจากความสูญเสีย
สรุปคะแนน 8.5/10 หนังสมัยก่อนมีความแตกต่างจากหนังสมัยใหม่ค่อนข้างเยอะ แต่หนังระดับตำนาน ในยุคนั้นถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว ไม่ควรมองข้ามเลยจริงๆ
ทั้งนี้ Top Gun ภาค 2 กำลังจ่อคิวรอฉายประมาณเดือนมิถุนายน 2020 ซึ่งก็มีตัวอย่างมายั่วให้เราอยากดูเล่นๆ บอกเลยว่าพอเราได้ดูแล้ว เราเลยไปหาภาค 1 มาดู เพราะกลัวจะดูภาค 2 ไม่รู้เรื่องนะสิ และเพื่อความอินในการดูภาคต่อ อ่านบทความนี้จบแล้ว ก็อย่าลืมไปหาหนังภาคแรกมาดูด้วยน้า