Mar 22, 2019 2672 view Moodymuay
เรื่องราวของการฆาตกรรมจานนี่ เวอร์ซาเช่ ผู้ก่อตั้งแบรนด์แฟชั่นชื่อดังอย่าง'เวอร์ซาเช่' ถูกนำมาร้อยเรียงเป็นเรื่องราวในสารคดีความยาว 9 ตอนที่ชื่อ American Crime Story : The Assassination Of Gianni Versace ทางช่องเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวในชีวิตทั้งของดีไซเนอร์ชื่อดัง และแอนดรูว์ คูนาแนน ฆาตกรผู้ลงมือปลิดชีพเขา
ตัวอย่างสารคดี
วันเกิดเหตุ
ยามเช้าของวันที่ 15 กรกฎาคม 1997 เป็นเช้าที่ท้องฟ้าแจ่มใสและสดใสในไมอามี่บีช จานนี เวอร์ซาเช่ เดินลดเลี้ยวผ่านถนนไปยังเส้นทางที่คุ้นเคยสู่ร้านกาแฟท้องถิ่นไม่ไกลจากบ้านนัก จานนีอาศัยอยู่ที่วิลล่าในเซาท์บีชมานานกว่า 5 ปี และเขาก็มักจะส่งผู้ช่วยไปซื้อกาแฟเสมอ แม้ในปัจจุบันตำรวจก็ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าทำไมเขาถึงออกไปซื้อกาแฟด้วยตัวเองในเช้าวันนั้น แต่การตัดสินใจในวันนั้นกลับเป็นการออกไปซื้อกาแฟครั้งสุดท้ายของเขา
เจ้าของร้านกาแฟรายงานกับตำรวจว่าจานนีดูจะระแวดระวังตัว เมื่อเขาเดินผ่านประตู เขากลับหมุนวนไปมาก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าร้าน เหมือนกับว่าเขารู้ว่ามีใครบางคนติดตามเขาอยู่ หลังจากได้หนังสือพิมพ์แล้วเขาก็รีบออกจากร้านและเดินกลับไปยังแมนชั่นบนถนนโอเชียน ไดร์ฟในทันที และเมื่อเขามาถึงแมนชั่น หายนะก็เกิดขึ้น
เหตุการณ์การจู่โจมยังคงเป็นที่ถกเถียงกันในหมู่พยานว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ผลลัพท์ที่ไม่อาจถกเถียงได้ก็คือจานนีไม่รอดชีวิตจากการบุกยิง พยานบางคนกล่าวว่าเมื่อจานนีเปิดประตูหน้าบ้าน เขาก็ถูกประชิดตัวโดยชายหนุ่มที่มีอายุประมาณ 20 กลาง-ปลายชายคนนั้นลอบทำร้ายเขาจากด้านหลัง และฝังกระสุน 2 นัดลงในหัวของเขา
ในขณะที่พยานอีกคนกล่าวว่า ชายคนร้ายกับจานนีดูจะรู้จักกันและทั้งคู่ก็ต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงกระเป๋า ก่อนที่ปืนจะถูกยิงออกมา อย่างไรก็ตามทั้งสองเรื่องราวมีตอนจบแบบเดียวกันคือ จิโอวานนี มาเรีย เวอร์ซาเช่ สถาปนิกผู้สร้างสรรค์ที่อยู่เบื้องหลังแบรนด์แฟชั่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ นอนเสียชีวิตอยู่ตรงขั้นบันไดของวิลล่าอันหรูหรามูลค่าหลายล้านดอลลาร์ของเขา
รู้จักกับฆาตกร
ฆาตกรที่ลงมือฆ่าจานนีหนีไปได้ไม่ไกลเมื่อตำรวจจับกุม ตำรวจถึงกับตกใจเมื่อค้นพบว่าพวกเขารู้จักชายคนที่ชื่อ'แอนดรูว์ คูนาแนน'คนนี้เป็นอย่างดี .. จานนีถูกฆาตกรรมโดยฆาตกรต่อเนื่อง
แอนดรูว์ คูนาแนน มีอายุ 27 ปี ในขณะนั้น เขาหลบหนีมาจากแคลิฟอร์เนีย เนื่องจากก่อนการฆาตกรรมจานนี เขาได้ทำการฆาตกรรมชายถึง 4 คนในหลายเมืองติดต่อกัน
หนึ่งเดือนก่อนการฆาตกรรมจานนี ชื่อของแอนดรูว์ถูกใส่ไว้ในรายชื่อที่ FBI ต้องการตัวมากที่สุด และ 4 วันก่อนเปิดฉากยิงจานนี เขาเกือบถูกจับกุมได้ที่ร้านค้าในรถไฟใต้ดินไมอามี่ และถ้าเขาถูกจับกุมในวันนั้น จีอานนี เวอร์ซาเช่จะยังคงมีชีวิตอยู่ แต่จนกระทั่งทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าทำไมจานนีจึงเป็นเหยื่อรายสุดท้ายของเขา ตำรวจจึงพยายามขุดค้นไปยังอดีตของแอนดรูว์เพื่อหาเหตุผลในการฆ่าของเขา
หลังจากแอนดรูว์เลิกเรียนกลางคัน เขาก็หาเงินด้วยการผูกมิตรกับชายชราผู้ร่ำรวยที่เสนอเสื้อผ้าหรูหรา, ทริปไปยุโรป, บัตรเครดิตที่ไร้การจำกัดวงเงิน และแม้กระทั่งรถสปอร์ตสุดหรูให้กับเขา
ในซานดิเอโก แอนดรูว์เป็นที่รู้จักที่ชุมชนชาวเกย์ในฐานะนักขุดทองที่ใช้เงินที่ได้จากเพื่อนวัยชราของเขาเพื่อแสดงความหน้าใหญ่กับชายหนุ่มที่มีอายุเด็กกว่าและน่าสนใจกว่า แม่ของแอนดรูว์กล่าวว่าเขาเป็นเหมือน "โสเภณีชายชั้นสูง" แม้เพื่อนของเขาจะไม่เชื่อว่าเขาคิดเงินจากการให้บริการของเขาก็ตาม แอนดรูว์เป็นชายหนุ่มผู้มีเสน่ห์และสภาพจิตของเขาก็ดูจะเป็นปกติดี
ชายที่เขามีความสัมพันธ์ด้วยเพื่อแลกกับเงิน ให้คำอธิบายแอนดรูว์ไว้ว่าเป็นคนที่ยุ่งและมักจะมีบางอย่างในใจเสมอ ในขณะที่ชายวัยเดียวกับเขาดูเหมือนจะไม่ชอบเขานัก เนื่องจากสงสัยว่าเขาจะต้องทำอะไรผิดกฎหมายเพื่อรักษาวิถีชีวิตสุดหรูหราของเขาเอาไว้ แต่เมื่อเขาถูกคนรักคนล่าสุดทิ้ง เพื่อนของแอนดรูว์กล่าวว่ามันทำให้หัวใจของเขาแหลกสลายจนเกินจะเยียวยา
จุดเริ่มต้นของการฆ่า
แอนดรูว์เริ่มฆ่าคนในเดือนเมษายน 1997 เริ่มต้นจากอดีตนายทหารเรือมินนิอาโปลิสที่หันมาเป็นพนักงานขายก๊าซหุงต้ม ชายคนนี้เป็นคนรู้จักที่เขาเคยพบในแคลิฟอร์เนียมาก่อน พวกเขาทุ่มเถียงกันก่อนที่แอนดรูว์จะทุบตีชายคนนั้นด้วยค้อนและม้วนศพของเขาไว้ในพรม
หลังจากนั้นแอนดรูว์ก็หยุดไม่อยู่อีกต่อไป เขาจึงลงมือฆ่าชายคนที่ 2 ซึ่งเป็นอดีตคนรักที่มินเนโซต้า ด้วยการยิงเข้าที่หัวและหลัง
จากการฆาตกรรมในมินเนโซต้า แอนดรูว์ก็ย้ายไปที่ชิคาโกและลงมือฆาตกรรมชายชราที่ชื่อ'ลี มิกลิน'ผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างโหดเหี้ยม ศพของลีถูกพบในขณะที่มือและเท้าถูกมัดเอาไว้ ร่างของเขาถูกแทงด้วยไขควงและคอของเขาถูกกรีดด้วยเลือยตัดโลหะ หลังจากการฆาตกรรมในครั้งนี้ ชื่อของแอนดรูว์ก็ปรากฏอยู่ในลำดับที่ 499 ของบุคคลที่ FBI ต้องการตัวมากที่สุด
5 วันหลังจากการฆาตกรรมในชิคาโกแอนดรูว์ก็ฆ่าชายชาวนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งเป็นผู้ดูแลสุสานแห่งชาติของฟินน์พอยต์ ก่อนจะหลบหนีไปที่ยังไมอามีบีช
การฆาตกรรมดูจะเลอะเทอะขึ้นเรื่อยๆ และแอนดรูว์ก็ลงมือทำโดยเพิ่มความประมาทขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน เขาทิ้งร่องรอยเอาไว้เต็มไปหมด ในอพาร์ทเม้นท์ของเหยื่อรายแรกตำรวจพบถุงที่มีชื่อของแอนดรูว์ติดอยู่ เช่นเดียวกับข้อความที่เขาทิ้งไว้บนเครื่องตอบรับอัตโนมัติ
ในชิคาโก แอนดรูว์ปล่อยให้ตัวเองถูกพบว่าอยู่กับเหยื่อฆาตกรรมหลายต่อหลายครั้งก่อนจะทำการก่อเหตุขึ้น หลังจากหนีไปไมอามีเขาดูจะยิ่งไม่แยแสที่จะปกปิดร่องรอยยิ่งกว่าเดิม เเละใช้ชื่อจริงของตัวเองในการจำนำสิ่งของที่ขโมยมา
ความจริงที่ไม่มีวันได้ยิน
8 วันหลังจากฆาตกรรมจานนี, แอนดรูว์ก็ฆ่าตัวตายในห้องนอนบนเรือนแพของเขา เมื่อตำรวจทำการตรวจค้นที่พักก็ไม่พบโน๊ตใดๆ ถูกทิ้งไว้ ตำรวจพบเพียงข้าวของไม่กี่อย่างของเขาเท่านั้น และที่สำคัญแอนดรูว์นำความจริงลงหลุมไปกับเขาด้วย
มีข่าวลือว่าแอนดรูว์พบกับจานนีในช่วงต้นยุค 90 ที่คลับในซานฟรานซิสโก คนที่รู้จักพวกเขาทั้งคู่กล่าวว่า ทั้งคู่ได้พบกันในระยะเวลาสั้นๆ ในขณะที่จานนีออกแบบเสื้อผ้าให้กับโรงละครโอเปร่าในซานฟรานซิสโก FBI ยอมรับว่าการพบกันของทั้งคู่อาจเป็นไปได้ แต่ขอบเขตความสัมพันธ์ของพวกเขายังคงเป็นปริศนา
หลังความตายของจานนี
แม้จานนี เวอร์ซาเช่จะจากไปแล้ว แต่มรดกที่เขาทิ้งไว้ยังคงดำเนินต่อไป พิธีศพของเขาเป็นหนึ่งในพิธีที่ใหญ่ที่สุด ที่เคยจัดขึ้นในมิลาน และมีคนดังเข้าร่วมมากมายทั้งเซอร์เอลตัน จอห์น, เจ้าหญิงไดอาน่า, นาโอมิ แคมป์เบลล์, จิออร์จิโอ อามานี่, คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ ฯลฯ
ดอนนาเทลลา เวอร์ซาเช่ น้องสาวของจานนีเป็นผู้รับช่วงต่อและผลักดันให้อาณาจักรแฟชั่นของเขายิ่งใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เธอใช้ชื่อ'เวอร์ซาเช่'เป็นชื่อแบรนด์จนถึงปัจจุบัน และแมนชั่นสุดหรูของจานนียังคงได้รับการดูแลอย่างดี ก่อนถูกเปลี่ยนเป็นบูทีคโฮเทลในภายหลัง
ชมสารคดี American Crime Story : The Assassination Of Gianni Versace
ได้ทางเน็ตฟลิกซ์ Click
Cr.allthatsinteresting