Power Rangers สุดยอดทีมขวัญใจซุปเปอร์ฮีโร่ตลอดกาลของเด็กในช่วงยุค 90 ที่แค่ประกาศการสร้างออกมาก็เรียกกระแสและเสียงฮือฮาจากแฟนๆ ได้ชนิดแบบท่วมท้นถล่มทลายกลับการปลุกชีพทีมในตำนานนี้ให้กับมาโลดแล่นบนหน้าจอได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องน่าแปลกไม่ใช่น้อยเลยละครับที่พอแค่ปล่อยตัวอย่างแรกออกมากลับได้รับคะแนนจากเว็บ Rotten Tomato ให้กลายเป็นมะเขือเน่าไปเสียอย่างนั้น ว่าแต่ทำไมจึงเป้นเช่นนั้น แล้วหนังมันจะเน่าจริงๆ หรือเปล่า ติดตามได้ใน Review ฉบับนี้เลยครับ
ยอดทีมมหากาฬ Power Rangers
หนัง Power Rangers ฉบับปี 2017 ยังคงเล่าเรื่อราวของเด็กวัยรุ่น 5 คนจากเมือง Angle Grove ที่ถูกเลือกให้มารับพลังเป็น Power Rangers เพื่อรับมือกับนางมารร้ายอย่าง Rita Repulza อย่างไรก็ตามสำหรับโทนหนังของ Power Rangers นั้นเรียกได้ว่าค่อนข้างที่จะตามกระแสโลกไมใช่น้อยด้วยการปรับโทนหนังให้มันหม่นและเน้นไปถึงของเด็กวัยรุ่นทั้ง 5 คนก่อนที่พวกเขาจะมารวมตัวกันและได้รับพลังดังกล่าว สำหรับหนังเรื่องนี้พูดได้เลยครับว่าถึงแม้เนื้อเรื่องจะไม่ค่อยเด่นนัก แต่สิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างจะโอเคและปลุกกระแสความติ่งของเด็กๆ ยุค 80-90 ได้ไม่ใช่น้อยก็คือฉากการเปลี่ยนร่างและการเรียกหุ่นยนต์มาเพื่อปราบอสูรยักษ์ตามแบบฉบับดั้งเดิมที่ทำสืบๆ กันมา ซึ่งในจุดนี้ทางผู้กำกับก็ทำได้อย่างค่อนข้างดีเลยทีเดียวทั้งในแง่ของการใช้วัตถุดิบดังกล่าวมาเสริมเนื้อเรื่องให้มันดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น (ซึ่งจุดนี้ยังไม่นับรวมความหล่อและความสวยของ Black, Pink และ Yellow ที่หนุ่มๆ สาวๆ ต่างตบตีแย่งกันจับจองนะครับ) รวมถึงมุกตลกต่างๆ ที่ใส่เข้ามากันแบบไม่ยั้งจนคนที่ชมหนังเรื่องนี้เมื่อดูจบแล้วอาจจะรู้สึกอยากออกมากินโดนัทคริสปี้
ปัญหาเบอร์ใหญ่ของทีมพัฒนา
สำหรับภาพยนตร์เรื่อง Power Rangers นั้นทางผู้สร้างได้ออกมาประกาศเพิ่มเติมแล้วครับว่าพวกเขามีความพร้อมที่จะเดินเรื่องกันต่อในภาคที่ 2 ของทีมซุปเปอร์ฮีโร่ดังกล่าวแต่เมื่อดูจากลักษณะของหนังในภาคแรกพูดได้เลยครับว่ามันน่าจะลำบากไม่ใช่น้อยเลยสำหรับ Saban ที่จะดำเนินโรปเจคกันต่อเพราะนอกจากคะแนนที่ค่อนข้างจะแย่จากทางเว็บมะเขือเน่าแล้ว ภายในภาพยนตร์เองก็มีจุดเสียๆ ให้เห็นอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็นการดำเนินเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างรวบรัดจนออกมาแบบงงๆ (ยกตัวอย่างเช่นการมารวมตัวกันของเด็กวัยรุ่นทั้ง 5 ที่อยู่ดีๆ ก็มาเจอกันโดยไม่ได้นัดหมายแถมยังรู้จักกันอย่างทั่วถึงอีกต่างหาก) แถมเป็นเส้นตรงจนแอบน่าเบื่ออีกต่างหาก ด้วยเหตุนี้เองจึงพูดได้ว่าหนัง Power Rangers อาจจะไม่ตอบโจทย์และโดนใจใครหลายๆ คนเท่าไหร่นัก ทางด้านฉกต่อสู้นั้นถึงแม้ว่าจะมีการเรียกหุ่นยนต์ขนาดยักษ์อย่างพวกเมก้าซอร์ดมาใช้ในการดำเนินเรื่อง หรือ แม้แต่เพลงประกอบ ที่เด็กๆ จากยุคก่อนได้ยินจะต้องร้องอ๋อกันทันที แต่มันก็ยังทำออกมาได้ไม่ถึงใจเท่าไหร่นักเพราะมันก็มีดีแค่นั้นจริงๆ อย่างไรก็ตามถ้าหากพูดถึงในภาพรวมแล้วละก็การที่หนังพยายามปูทางให้ Rita Repulza ตัวร้ายของเรื่องสามารถปราบพวก Rangers ทั้ง 5 ได้ตั้งแต่ต้นจนเรียกได้ว่ามีสเกลพลังเทพสุดในเรื่องต้องมาถูกปราบได้อย่างง่ายดายก็ดูเป็นจุดที่ดูไม่ค่อยจืดเท่าไหร่สำหรับหนังเรื่องนี้
ถึงจะแย่แต่ก็ยังน่าดู
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่า Power Rangers ภาคนี้จะทำออกมาได้แบบไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นักทั้งในแง่ของคำวิจารณ์ (ที่โดนถล่มเละเทะ), โครงสร้างของเนื้อเรื่อง และ การโฆษณาแฝง (ที่ดูน่าเกลียดอย่างเห็นได้ชัด) แต่อย่างน้อยที่สุดมันก็ยังช่วยให้เราได้หวนกลับไปยังช่วงเวลาในวัยเด็กที่ทุกๆ คนต่างก็ได้เล่นเป็น Rangers กันอย่างสนุกสนาน แถมเมื่อหนังจบแล้วผมขอให้ทุกคนอดทนรอ Mid Credit สักนิดรับรองได้เลยครับว่ามันจะทำให้คุณลุ้นอยากให้หนังเรื่องนี้มีภาคต่อกันเลยทีเดียว