Apr 23, 2019 2193 view Moodymuay
เรื่องรักๆ ใคร่ๆ สไตล์ราชวงศ์ไม่ได้จบอย่างสวยงามเหมือนในการ์ตูนดิสนีย์ซักเท่าไหร่ เพราะหลายคู่กลับลงเอยด้วยเรื่องดราม่าและฆ่ากันตาย โหดร้ายยิ่งกว่าคนธรรมดาเสียอีก!
1. สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 1 และเจ้าหญิงโซฟี โดโรเทอา
ในปี 1682 มารดาของจอร์จที่ 1 ได้จัดการให้เขาแต่งงานกับเจ้าหญิงชาวเยอรมันผู้มั่งคั่งที่ชื่อโซฟี โดโรเทอา แห่งเซลเลอ ซึ่งเป็นการแต่งงานที่ขมขื่นตั้งแต่เริ่มต้น โดยเฉพาะเมื่อจอร์จเชื่อมั่นว่าเขามีสิทธิ์ที่จะมีชู้รักและทำการโอ้อวดชู้รักต่อหน้าภรรยาสาว เรื่องราวยิ่งเลวร้ายลงเมื่อเจ้าหญิงโซฟีพยายามค้นหาความรักของเธอเองและเริ่มความสัมพันธ์กับฟิลิป คริสโตฟ ฟอน โคนิคส์มาร์คขุนนางชาวสวีเดน
เมื่อจอร์จเผชิญหน้ากับภรรยาเรื่องความสัมพันธ์ของเธอ เรื่องราวก็เริ่มบานปลาย เขาจู่โจมเข้าหาเจ้าหญิงโซฟีและทุบตีเธอ เมื่อจอร์จจากฮันโนเฟอร์เพื่อไปเป็นกษัตริย์แห่งอาณาจักรบริเตนใหญ่ในปี 1717 เขาก็จากไปโดยไม่มีเจ้าหญิงโซฟีเคียงข้างและทำการหย่าร้างจากเธอในปี 1694 ก่อนจะกักขังเธอไว้ตลอดชีวิต ส่วนฟิลิป ถูกสั่งประหารไปอย่างไม่ต้องสงสัย
2. พระราชินีอิซาเบลลา และพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 แห่งอังกฤษ
พระราชินีอิซาเบลลาแห่งฝรั่งเศส มีพระชนมายุเพียง 12 พรรษาเท่านั้นตอนที่พระองค์อภิเษกสมรสพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 แห่งอังกฤษในปี 1308 แม้ชีวิตสมรสจะมีช่วงเวลาอันแสนสุขในช่วงแรกๆ แต่ความหมกมุ่นของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่มีต่อเหล่าชายหนุ่มทั้งเพียร์ส เกฟสตัน และฮิวห์ เดสเพนเซอร์ ก็สร้างความตึงเครียดให้กับชีวิตสมรสในที่สุด
พระราชินีอิซาเบลลาเริ่มมีความสัมพันธ์กับโรเจอร์ มอร์ติเมอร์ และด้วยความช่วยเหลือของเขา พระองค์ก็ประสบความสำเร็จในการทำรัฐประหารต่อพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดถูกคุมขังไว้และสวรรคตอย่างมีเงื่อนงำในปี 1327 ไม่มีใครรู้สาเหตุของการสวรรคตที่แท้จริง แต่มีข่าวลือว่าทรงถูกปลงพระชนม์โดยคำสั่งของพระราชินีอิสซาเบลลา และถูกโลหะร้อนสอดเข้าไปในอวัยวะภายในของพระองค์จนสวรรคต
3. เจ้าหญิงแคโรไลน์ มาทิลดา กับสมเด็จพระเจ้าคริสเตียนที่ 7 แห่งเดนมาร์ก
เจ้าหญิงแคโรไลน์ มาทิลดาแห่งบริเตนใหญ่ เป็นพระขนิษฐาของพระเจ้าจอร์จที่ 3 พระองค์อภิเษกสมรสกับสมเด็จพระเจ้าคริสเตียนที่ 7 แห่งเดนมาร์กในขณะมีพระชนมายุ 15 พรรษา ในปี 1766 แต่พระองค์ไม่ทรงพบกับความสุขในอาณาจักรใหม่ของพระองค์ ที่จริงแล้วพระเจ้าคริสเตียนทรงทุกข์ทรมานจากความไม่มั่นคงทางจิตอย่างรุนแรง จนผลักดันความสัมพันธ์ที่เปราะบางของทั้งสองพระองค์ไปถึงจุดจบ
นอกจากปัญหาพฤติกรรมของพระเจ้าคริสเตียนแล้ว พระองค์ยังโหดร้ายทารุณ นอกจากนี้พระองค์ยังเป็นที่รู้จักในเรื่องการเสพติดทางเพศและความหวาดระแวง จนแพทย์ชาวเยอรมันที่ชื่อโจฮันน์ ฟรีดิช สตรูเอนซี ถูกเรียกมาทำการรักษาพระเจ้าคริสเตียน แต่แทนที่จะทำการรักษาเขากลับเข้ามาคุมบังเหียนรัฐบาล, ออกคำสั่งการปฏิรูป และเริ่มมีความสัมพันธ์กับพระนางแคโรไลน์แทน ท้ายที่สุดโจฮันน์ถูกขับไล่และประหารชีวิต ส่วนพระนางแคโรไลน์ถูกเนรเทศและสิ้นพระชนม์ขณะมีพระชนมายุเพียง 23 พรรษา
4. พระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ และแคเทอริน เฮาเวิร์ด
พระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ หย่าร้างกับพระชายา 2 คน ประหารพระชายา 2 คน เสียพระชายาไปจากการคลอดบุตร 1 คน ในชีวิตสมรสอันแสนพังพินาศของพระองค์ พระชายาที่ประสบกับความตายอันโหดร้ายที่สุดคือแคเทอริน เฮาเวิร์ด
พระเจ้าเฮนรีอภิเษกสมรสกับแคเทอริน ในขณะที่พระองค์มีพระชนมายุ 49 พรรษา และแคเทอรินมีอายุเพียง 16 หรือ 17ปีเท่านั้น และช่วงอายุที่แตกต่างกันมากของทั้งคู่สะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างในการดำเนินชีวิตเช่นกัน
ในขณะที่พระองค์สมรสกับแคเทอริน พระองค์เป็นได้เพียงเงาขององค์ชายที่แสนสง่าที่พระองค์เคยเป็นเท่านั้น เพราะในตอนนั้นพระองค์ประชวรด้วยโรคอ้วนและแสนเฉื่อยชาเนื่องจากบาดแผลเก่าจากการต่อสู้ในอดีต ในขณะที่แคเทอรินกลับตรงกันข้าม เธออยู่ในช่วงเริ่มต้นของวัยเยาว์ของเธอและมองหาความโรแมนติกจากที่อื่นมาเพื่อเติมเต็ม หลังจากถูกกล่าวหาว่าคบชู้กับโทมัส คัลเปเปอร์ ความหายนะของแคเทอรินเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด - ราชินีวัยรุ่นถูกตัดศีรษะในวันที่13 กุมภาพันธ์ 1542 ซึ่งเธอไม่ใช่เพียงคนเดียวเท่านั้นที่ถูกตัดศีรษะเพราะแอนน์ บุลิน พระชายาองค์ที่ 2 ของพระเจ้าเฮนรีก็ถูกตัดศีรษะเช่นกัน
5. พระเจ้าจอร์จที่ 4 แห่งสหราชอาณาจักร และเจ้าหญิงคาโรไลน์แห่งบรันสวิค
พระเจ้าจอร์จที่ 4 มีความสนพระทัยในการสมสู่กับชู้รัก, สร้างอาคารที่งดงาม และสะสมหนี้การพนันมากกว่าการทำหน้าที่ของราชวงศ์ พระราชบิดาของพระองค์จึงบังคับให้พระองค์สมรสเพื่อแลกกับการล้างหนี้ให้ ซึ่งพระเจ้าจอร์จที่ 4 ก็ตอบตกลง
การสมรสในครั้งนี้คือหายนะอย่างแท้จริง เจ้าสาวที่ถูกเลือกเป็นลูกพี่ลูกน้องคนแรกของเจ้าชาย ซึ่งก็คือเจ้าหญิงคาโรไลน์แห่งบรันสวิค และมันเป็นความเกลียดตั้งแต่แรกพบ การสมรสในค่ำคืนของวันที่ 8 เมษายน 1795 ก็เป็นความยุ่งเหยิงอย่างแท้จริง เพราะพระเจ้าจอร์จที่ 4 ทรงเมามายตลอดเวลา
ทั้งสองพระองค์อยู่ด้วยกันนานจนเจ้าหญิงคาโรไลน์ตั้งพระครรภ์ และให้กำเนิดเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ 9 เดือนหลังจากการสมรส ทั้งคู่แยกกันอยู่ จนกระทั่งจอร์จที่ 4 กลายเป็นพระเจ้าจอร์จที่ 4 ในปี 1820 และหย่าร้างกับเจ้าหญิงคาโรไลน์ในที่สุด
Cr.ranker
-
Tags:
- ราชวงศ์
- การแต่งงาน
- ชีวิตสมรส