Jun 26, 2019 782 view 801
Unsinkable Sam เจ้าแซมผู้ไม่จม หรืออีกชื่อคือ ออสการ์ (Oskar , Oscar) แมวชื่อดังสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาเป็นแมวนำโชคผู้ใช้ชีวิตอยู่บนเรือรบถึง 3 ลำ ทั้งกองทัพเรือเยอรมัน เรือพิฆาตอังกฤษ และเรือบรรทุกเครื่องบิน ความโชคร้ายของเรือทั้ง 3 ลำนี้คือพวกมันถูกยิงจมหมด ความโชคดีคือเจ้าแมวรอดชีวิต!!
ลาก่อนบิสมาร์ค
ตำนานแซมผู้ไม่จมนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ.2484 แมวสีขาวดำตัวหนึ่งได้ขึ้นเป็นแมวมาสคอตนำโชคประจำเรือประจัญบานบิสมาร์ค (Bismarck) ของกองทัพเรือเยอรมัน ที่ถือว่าเป็นเรือประจัญบานขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่เข้าประจำการในสมัยนั้น ด้วยความยาวตลอดลำถึง 251 เมตร และมีระวางขับน้ำมาตรฐานอยู่ที่ 41,700 ตัน แต่ความยิ่งใหญ่ก็ไม่ยืนยงเพราะมันถูกจมลงใน 9 วันถัดมา!
เรือบิสมาร์คถูกถล่มยิงตอร์ปิโดโดยเครื่องบินรบอังกฤษแถมยังโดนลูกปืนใหญ่จากเรือรบอังกฤษเข้าไปอีก มีผู้รอดชีวิตเพียง 118 คนจากลูกเรือกว่า 2,200 คน จากนั้นทางอังกฤษก็ได้มาค้นหา-ช่วยเหลือเชลยศึกที่ยังรอดชีวิต พวกเขาไปเจอเจ้าเหมียวลอยเท้งเต้งเกาะอยู่บนเศษซากแผ่นไม้จึงช่วยขึ้นมา แล้วให้ไปเป็นแมวประจำเรือบนเรือพิฆาตคอสแซคของอังกฤษ (HMS Cossack)
เนื่องจากไม่มีใครรู้ชื่อของมัน ลูกเรือคอสแซคจึงตั้งชื่อเจ้าเหมียวว่า ‘ออสการ์’.... ในตอนนี้เจ้าออสการ์ได้เปลี่ยนฝั่งจากนาซีไปอยู่กับฝั่งพันธมิตรแล้ว แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น!!
คอสแซคจ๋า ออสการ์มาแล้ว!
เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ.2484 เรือพิฆาตคอสแซคที่เจ้าออสการ์อยู่นั้นต้องไปทำภารกิจคุ้มกันขบวนเรือบรรทุกเสบียงจากยิบรอตาร์ไป สหราชอาณาจักร ทำให้ถูกเรือดำน้ำเยอรมัน U-563 ยิงตอร์ปิโดใส่ มีผู้เสียชีวิต 159 คน ส่วนลูกเรือที่เหลือก็ย้ายไปยังเรือพิฆาตลีเจนของอังกฤษ (HMS Legion) ที่เข้ามาช่วยลากเรือคอสแซคไปซ่อมที่ชายฝั่งยิบรอตาร์
แต่ด้วยสภาพอากาศอันเลวร้ายทำให้เรือคอสแซคระเบิดและจมลงในวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ.2484 พอเรือลีเจนมาเก็บกู้ซากเรือก็พบว่ามีแมวเกาะแผ่นไม้ลอยคอรอดชีวิตจากการระเบิดนั้น!
ออสการ์ถูกพาตัวขึ้นฝั่งยิบรอตาร์และมีคำเล่าลือถึงความโชคดีของมัน จึงถูกลูกเรือตั้งชื่อให้ใหม่ว่า “แซม ผู้ไม่จมน้ำ” จากนั้นเจ้าแซมก็ได้ไปประจำการที่เรือหลวงบรรทุกเครื่องบินอาร์ครอยัล (HMS Ark Royal) ที่ถูกขนานนามว่าเป็น "เรือแห่งโชค" เพราะเป็นเรือที่ถูกใช้งานมากที่สุด และรอดจากการยิงถล่มมากที่สุด...
อาร์ครอยัล เรือนำโชคก็อาจไม่สู้แมวนำโชค
ถือเป็นเรื่องบังเอิญที่เรืออาร์ครอยัลก็เป็นหนึ่งในเรือสำคัญที่อยู่ในภารกิจทำลายเรือประจัญบานบิสมาร์คที่เจ้าแซมอยู่ในลำแรก เรืออาร์ครอยัลรอดพ้นภัยมาด้วยดีจนกระทั่งรับแซมขึ้นเรือมาเพียง 1 เดือน...
วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ.2484 เรืออาร์ครอยัลก็ถูกเรือดำน้ำ U-81 ของเยอรมันยิงตอร์ปิโดใส่ แม้ว่าจะถูกจูงกลับไปซ่อมแต่ด้วยกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก เรืออาร์ครอยัลก็ได้จมลงช้าๆ ในครั้งนี้มีลูกเรือรอดชีวิตเกือบทั้งหมด คือ 1,487 คน และเสียชีวิตเพียง 1 รายเพราะบาดเจ็บสาหัส ส่วนเจ้าแซมก็ถูกพบว่าเกาะอยู่ที่แผ่นไม้ที่ติดกับตัวมอเตอร์เครื่องยนต์ ลูกเรือจึงช่วยเหลือแซม ย้ายไปยังเรือพิฆาตไลท์นิ่ง (HMS Lightning) และส่งต่อไปยังเรือพิฆาตลีเจน (เรือเดียวกับเรือที่ลากเรือคอสแซค) เพื่อพาขึ้นฝั่งที่ยิบรอตาร์
ในเหตุคราวนี้ที่เกิดกับเรืออาร์ครอยัลแสนสำคัญ ทำให้ลูกเรือเห็นพ้องกันว่าควรจะให้แซมอยู่บนบกซะที! อย่าเป็นมันเลยแมวนำโชคเนี่ย!!! ถึงได้ให้แซมไปประจำการเป็นเจ้าหน้าที่ควบคุมประชากรหนูที่สำนักงานผู้ว่าการยิบรอตาร์ ก่อนจะถูกส่งกลับไปยังสหราชอาณาจักรและได้ใช้ชีวิตอยู่ที่พำนักลูกเรือในเบลฟาสต์ เมืองหลวงของไอร์แลนด์เหนือ
จนกระทั่งเจ้าแซมจากไปอย่างสงบในปี พ.ศ.2498 สิริอายุประมาณ 14 ปี ซึ่งทางพิพิธภัณฑ์การเดินเรือแห่งชาติในกรีนนิช กรุงลอนดอน ก็ได้มีการแสดงภาพ ‘ออสการ์ แมวแห่งบิสมาร์ค’ที่เป็นภาพวาดโดย Georgina Shaw-Baker เอาไว้ด้วย
แซมผู้ไม่จม
ตำนานของแซม/ออสการ์นี้ ถึงแม้ว่าจะมีการระแคะรายคายว่าอาจจะเป็นเรื่องแต่งเว่อร์เกินจริงไปบ้าง เพราะช่วงที่เรือบิสมาร์คจม มีการระบุว่าเรือของอังกฤษถูกสั่งไม่ให้จอดเรือให้เขตที่คาดว่ามีเรือดำน้ำของฝั่งศัตรู ทำให้การช่วยเหลือเชลยศึกมีจำนวนน้อยมาก อย่าว่าแต่ช่วยแมวเลย ช่วยคนยังช่วยน้อยเลยด้วยซ้ำ!
อย่างไรก็ตามตำนานนี้ก็ทำให้เราคิดได้ว่าถึงแม้จะอยู่ในเหตุการณ์ที่สิ่งต่าง ๆ รอบตัวนั้นพังทลายไปเสียหมด แต่ก็สามารถเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ หรืออีกแง่คิดคือ ถ้าเรือจมจงหาแผ่นไม้เกาะให้แน่น!!
ปล.หลังจากที่เจ้าแซมขึ้นฝั่งไปไม่นาน เรือที่เจ้าแซมโดยสารผ่านทางอย่าง เรือพิฆาตลีเจนก็จมในปีพ.ศ. 2485 ส่วนเรือพิฆาตไลท์นิ่งก็ตามมาติด ๆ จมในปีพ.ศ. 2486
อ้างอิง :: การ์ตูนเรื่องแซมผู้ไม่จม , ประวัติของแซม-ออสการ์ , ภาพวาดออสการ์แห่งบิสมาร์ค