20 สิ่งที่ช่วยให้คุณ Productive ขึ้น :D

 ชีวิตของคนแต่ละคนก็มีวิถีที่ต่างกันออกไป บางคนพึงพอใจที่จะใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย บางคนกลับชอบความท้าทาย ออกหาสิ่งใหม่ๆ ให้กับชีวิต ในเรื่องของชีวิตหลังการเรียนจบก็เช่นกันค่ะ บางคน พอได้ใบปริญญาใบแรก ก็อาจจะรู้สึกว่า ยังไม่แน่น ขอเรียนต่อก่อน บางคนบอก แค่นี้เราพอแล้ว ขอออกทำงานหาเงิน ในขณะที่อีกคน อาจจะไม่มีโอกาสได้เลือกเลยด้วยซ้ำว่า อยากจะทำอะไรต่อ ซึ่งพอมาพูดถึงชีวิตการทำงาน รูปแบบของชีวิตการทำงานนั้นมีมากมาย แต่คนส่วนใหญ่ก็จะถูกกรอบของรูปแบบสังคมตีให้มาอยู่ในสังคมของ ออฟฟิศค่ะ (อ่านบทความเกี่ยวกับงานประจำหรือฟรีแลนซ์ กดที่นี่) #เก่งขึ้นCB

โยงมานานเชียว ฮ่าๆ วันนี้ค่ะ Sukiez ขอเอาใจเหล่ามนุษย์เงินเดือนที่ต้องทำงานอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมที่เราใช้ชีวิตเกินกว่าครึ่งวันในนั้น ใช่ค่ะ นี่กำลังพาดพิงถึง Office อยู่นั่นเอง การทำงานในพื้นที่เดิมๆ หรือในขนาดที่จำกัด ไม่ใช่ทุกคนแน่ๆ ค่ะ ที่จะรู้สึกว่าฉันชินกับพื้นที่ตรงนี้และคิดงานออกได้ทั้งวัน ดังนั้น เราต้องมาค้นหาวิธีชาร์จพลังระหว่างวัน เพื่อให้งานในวันนั้นๆ สำเร็จลุล่วงไปได้ วันนี้เราเลยนำ 20 สิ่งที่ช่วยให้คุณ Productive ขึ้น มาฝากกันค่ะ

หมายเหตุ: การผ่อนคลายและสมองที่ปลอดโปร่ง เป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เราพัฒนาตัวเองได้ดีที่สุดค่ะ

พาตัวเองออกมาจากหน้าจอคอม 5-10 นาที

ทุกออฟฟิศยังไงก็ต้องมีคอมพิวเตอร์ค่ะ แล้วแสงจากเจ้าคอมพิวเตอร์นี่แหละ ที่บ่อนทำลายทั้งสายตาและระบบประสาท บางทีการที่เราคิดอะไรไม่ออก อาจจะไม่ได้เกิดจากอยู่ในบริเวณที่แคบๆ หรือเดิมๆ นะคะ ลองพาสายตาออกไปจากหน้าคอมพิวเตอร์ดู จะรู้สึกสดชื่นขึ้นมาแน่ๆ ค่ะ

ออกไปเดินเล่นที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่โต๊ะทำงาน

หากการพาตัวเองออกมาจากหน้าจอคอม ยังคงไม่เพียงพอ ลองโยกย้ายตัวเองออกไปเดินเล่นพักผ่อนรอบๆ บริเวณออฟฟิศก็ถือเป็นเรื่องที่ดีนะคะ การได้ขยับร่างกายก็เท่ากับออกกำลังกายค่ะ เลือกหมุนเวียนได้ดีขึ้น คลายความปวดเมื่อยจากการนั่งนานๆ แนะนำให้ลองทำเลยค่ะ

สนทนากับเพื่อนร่วมงาน ทักทายคนอื่นๆ

เริ่มวันทำงานด้วยการส่งยิ้มทายทักเหล่าบรรดาเพื่อนร่วมงานก็ถือว่าเป็นวิธีที่ทำให้จิตใจเบิกบานได้นะคะ ระหว่างวันคุณผู้ชาย ก็อาจจะพักด้วยการพูดเรื่องฟุตบอลที่จะแข่งคืนนี้ หรือถ้ากล้าดีหน่อย นินทาแฟนก็เป็นหัวข้อที่ผ่อนคลายค่ะ ฮ่าๆ ส่วนสาวๆ ก็ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้นค่ะ เรื่องเม้ามอย ไว้ใจได้เลย นอกจากจะผ่อนคลายกับเรื่องที่คุยแล้ว ยังได้สานสัมพันธ์กับคนในที่ทำงานด้วยค่ะ (อ่าน DIY สร้างสัมพันธ์ในที่ทำงานด้วยหวานเย็น กดที่นี่)

คิดเล่นๆ ว่าเย็นนี้จะกินอะไรดี

ถ้าไม่มีเวลามากพอที่จะขยับไปไหน ลองปล่อยตัวปล่อยใจไปกับของกินดูก็ไม่เลวนะคะ ลองมานึกดูเล่นๆ ว่าเลิกงานแล้วจะกินอะไรดี เปิดหาข้อมูลก็ได้ค่ะ พอตัดสินใจได้แล้วว่า จะกินอะไรที่ไหน ก็รีบกลับมาทำงานให้เสร็จ จะได้เลิกเวลาปกติแล้วไปกินกัน

จัดโต๊ะทำงาน ทำของให้เป็นระเบียบ

โต๊ะโล่งๆ ก็สามารถทำให้สมองปลอดโปร่งได้ค่ะ เพราะว่ามองไปทางไหนก็มีแต่ความสะอาดตา หยิบจับใช้ของอะไรก็หาง่าย ไม่หงุดหงิด แบบนี้อารมณ์ดีทั้งวันแน่นอน แล้วพออารมณ์ดีก็จะทำให้งานออกมาดีค่ะ

ร้องเพลงเบาๆ ฟังเพลงพักสมอง

การฮัมเพลงเบาๆ ระหว่างทำงาน ก็ทำให้เราผ่อนคลายได้ดีนะคะ แต่ถ้าดังเกินไปก็อาจจะสร้างความรำคาญให้เพื่อนร่วมงานท่านอื่นๆ ได้ หรือถ้าเครียดจัด คิดอะไรไม่ออก ลองเสียบหูฟัง แล้วเปิดเพลงโปรดอัดใส่หูดังๆ ก็จะช่วยให้เราโล่งขึ้นได้ค่ะ

วาดรูป-เขียนไดอารี่ ไม่ก็ To do list

ใช้งานศิลป์หรือการจัดตาราง To do list ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้ทั้งพักผ่อนและพัฒนาตนเองค่ะ

วางแผนเที่ยว ดูโปรตั๋วราคาถูก

ทำงานมาทั้งปี หารางวัลดีๆ ให้ตัวเองด้วยการไปเที่ยวพักผ่อนดูสิคะ เริ่มจากหาโปนตั๋วราคาถูก จะได้ไม่กระทบความมั่นคงทางการเงิน วางแผนเที่ยว กำหนดวันแล้วก็เริ่มนับถอยหลัง รับรอง มีกำลังใจทำงานอย่างแน่นอน

คิดถึงเรื่องที่ต้องจัดการให้เสร็จของพรุ่งนี้

การวางแผนล่วงหน้าหนึ่งวัน ถือเป็นการพัฒนาตนเองขั้นพื้นฐานที่แนะนำให้ทุกคนทำค่ะ หลังเลิกงานของแต่ละวัน แค่ห้านาทีก่อนนอน ลองมาวางแผนดูว่า พรุ่งนี้ เราจะต้องทำอะไรให้เสร็จเตรียมไว้ พอตื่นมาอีกวัน ก็ทำตามกำหนดการนั้น แล้ววันที่น่าเบื่อของคุณก็จะหมดไปไวอย่างไม่รู้ตัวเลยละค่ะ

ดื่มน้ำเปล่า 1-2 แก้วตอนพัก

การดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวันเป็นเรื่องที่สำคัญค่ะ เพราะมันจะช่วยให้คุณปลอดโปร่ง แล้วพอคุณปลอดโปร่ง ศักยภาพในการทำงานหรือพัฒนาตัวเองก็จะมีมากขึ้น ทำได้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีค่ะ (อ่าน ดื่มน้ำวันละ 1 แกลอน มันดีอย่างไร กดที่นี่)

ให้กำลังใจคนอื่น ยิ้มให้กับตัวเอง

จิตใจที่ดี ก็สามารถเป็นพื้นฐานให้การพัฒนาตัวเองสำเร็จได้ค่ะ ที่สำคัญไม่มีใครให้กำลังใจใครได้ดีไปกว่าตัวเองหรอกค่ะ ยิ้มให้ตัวเองจนดีขึ้น ก็อย่าลืมแบ่งปันกำลังใจให้คนอื่นๆ สดชื่นแน่นอนค่ะ

โน๊ตเบอร์โทร/ สิ่งที่ต้องรู้บ่อยๆ เกี่ยวกับงานลง Post it

การไม่ลืมคือจุดเริ่มต้นที่ดีค่ะ หากคุณอยากพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น แต่ดันเป็นคนที่ขี้ลืมเอามากๆ Post it ช่วยคุณได้ค่ะ นึกออกก็จด กลัวลืมก็จก แปะไว้ในที่ที่สายตาสัมผัสถึง จะได้ไม่พลาดค่ะ

จัดหน้าจอ Desktop แยกไฟล์ แบ่งแฟ้ม

เหมือนการจัดโต๊ะทำงานเลยค่ะ โต๊ะทำงานก็เหมือนบ้าน ส่วนคอมนั้นเปรียบเหมือนห้องนอนที่เราอาศัยอยู่ทุกวัน ถ้าห้องนอนรก สุขภาพก็จะไม่ดี แถมหาของไม่เจอ หน้าจอ Desktop ก็เช่นกันค่ะ อย่าทำร้ายสายตาด้วยการเพ่งหาไฟล์หรือทำร้ายจิตใจโดยปล่อยให้ความหงุดหงิดในการหาไฟล์ไม่เจอเพราะหน้าจอเรารกมาคุกคามเราค่ะ

รดน้ำต้นไม้ หากระบองเพชรมาปลูก

หาสีเขียวๆ อย่างต้นไม้มาปลูกไว้บริเวณโต๊ะทำงานโดยเฉพาะกระบองเพชรถือเป็นเรื่องที่สนับสนุนมากๆ ค่ะ เพราะนอกจากสีเขียวๆ ของมันจะช่วยให้คุณผ่อนคลายสายตาแล้ว กระบองเพชรยังสามารถช่วยดูดซับแสงจากจอคอมได้ด้วย สวย ผ่อนคลาย มีประโยชน์ รีบๆ หามาปลูกกันนะคะ

ดื่มชาร้อน กาแฟอุ่นๆ สักแก้วนึง

เหมือนการดื่มน้ำแหละค่ะ แต่จะช่วยให้ผ่อนคลาย ไม่ง่วงได้ด้วยเพราะอุณหภูมิของชาและกาแฟ รวมถึงคาเฟอีนในนั้น รับรอง พร้อมทำงานต่อแน่นอนค่ะ

จัดลำดับอีเมล์ที่สำคัญก่อน-หลัง

จัดความสำคัญก่อนหลังก็เหมือนการวางแผนแหละค่ะ สำคัญสุดก็ทำก่อน แล้วไล่ลงไป แบบนี้จะได้ไม่พลาดเรื่องที่สำคัญ แถมผู้ใหญ่จะได้เห็นว่า เรารอบคอบอีกด้วย

เผื่อเวลาสำหรับงานที่คาดไม่ถึง ไม่ดินพอกหางหมู

ถึงจะวางแผนมาอย่างดี แต่ก็ไม่มีการคอนเฟิร์มนี่คะว่า จะไม่มีอะไรเพิ่มมาระหว่างดำเนินตามแผนนั้น เวลาวางแผนหรือจัดลำดับความสำคัญ อย่าลืมเผื่อเวลาหรือคิดแผนสำรองไว้ด้วย จะได้ไม่มีงานค้างคาหรือกระทบกับงานสำคัญอื่นๆ ค่ะ

กำหนดความสำเร็จในแบบของเราเอง

ไม่มีความสำเร็จใดเกิดขึ้นได้หากไม่มีเป้าหมายนะคะ ถ้าเป้าใหญ่มันดูเกินตัว ลองทำเป้าหมายในแบบของเราดูสิคะ กำหนดแล้วทำลายมันให้สำเร็จ นั่นก็ถือเป็นการพัฒนาตัวเองแล้วค่ะ

เป็นตัวขอตัวเอง แต่ก็น้อมรับเสียงวิจารณ์ด้วย

ไม่มีอะไรมีความสุขไปเท่าได้ทำอะไรที่เป็นตัวของตัวเอง แต่ความเป็นตัวของตัวเองต้องไม่เอาอีโก้หรือความมั่นหน้ามาใช้นะคะ แข็งได้ก็ต้องอ่อนเป็น รับฟังผู้อื่นด้วยค่ะ

หมั่นทำเรื่องดีๆ แบบไม่ต้องป่าวประกาศ

ทำดีไม่ต้องมีคนรู้หรอกค่ะ แค่เรารู้ว่าเราทำ เรามีความสุขใจ เมื่ออิ่มใจ อะไรใหม่ๆ ก็พร้อมที่จะเข้ามาเพื่อพัฒนาต่อไปแน่นอนค่ะ

สิ่งที่นำมาแนะนำทั้ง 20 อย่างนี้ ไม่จำเป็นต้องทำตามทุกข้าก็ได้ค่ะ เพียงแค่เป็นตัวเลือกให้เพื่อนๆ ได้เลือกดูว่า เราจะสามารถ พัฒนาตัวเองในสังคมที่เรียกว่าออฟฟิศอย่างไรให้ประสบความสำเร็จได้มากที่สุด มีความสุขที่สุด ใครลองทำแล้วได้ผล อย่าลืมมาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ